บทนำ
เสียงหัวใจเกิดการผิดปกติในสุนัขนั้นเกิดจากมีบางสิ่งบางอย่างเข้าไปขัดขวางระบบการไหลเวียนในเลือดของสุนัขในปริมาณที่สูงเมื่อเลือดไหลเวียนติดขัดมากๆ เข้าก็จะทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมาที่ห้องหัวใจของสุนัขได้
โดยเสียงที่ดังขึ้นมานั้นจะเปลื่ยนแปลงไปตามจังหวะการบีบตัวรวมถึงการคลายตัวส่วนเสียงจะดังมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับการบีบตัวของหัวใจสุนัขตัวนั้นๆ
อาการ
โดยส่วนใหม่แล้วอาการของสุนัขจะรุนแรงหรือไม่ ก็จะขึ้นอยู่กับ ตำแหน่งที่ตรวจพบว่ามีเสียงผิดปกติเกิดขึ้นตรงบริเวณไหนของหัวใจ
ในกรณีที่สุนัขมีอาการเสียงหัวใจผิดปกติหนักมาก เข้านั้นวิกฤต ก็อาจจะผลส่งทำให้สุนัขตัวนั้นเกิดสภาวะหัวใจวาย และมีอาการไอเรื้อรัง กับอาการอ่อนแรงร่วมด้วย
เสียงหัวใจเต้นผิดปกติของสุนัขมี 6 ระดับ
ทางการแพทย์ได้แบ่งระดับความดังเสียงหัวใจเต้นผิดปกติของสุนัขออกมาได้ 6 ระดับด้วยกันได้แก่
ระดับที่ 1 แทบจะไม่ได้ยินเสียงดังของหัวใจเลย
ระดับที่ 2 เป็นระดับเริ่มต้นเบาๆ การจะได้ยินนั้นจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ในการฟังเข้าช่วยอย่าง stethoscope
ระดับที่ 3 ได้ยินปานกลาง ในระดับที่ 3 นั้นระบบไหลเวียนเลือดเริ่มมีความผิดปกติเกิดขึ้นแล้วทำให้เริ่มมีเสียงดังออกมาจากการเต้นของหัวใจ
ระดับที่ 4 สามารถได้ยินอย่างชัดเจนร่วมถึงบริเวณส่วนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆ กับหัวใจนั้นก็มีเสียงดังออกมาเหมือนกัน
ระดับที่ 5 มีเสียงที่ดังมากไม่จำเป็นต้องใช้เครื่อง stethoscope ก็ได้ยินเพียงแค่เอาจับของคุณสัมผัสกับหน้าอกของสุนัขแล้วคุณก็จะรู้สึกถึงความสั่นสะเทือนที่หน้าอกของสุนัขได้
ระดับที่ 6 จะมีอาการคล้ายๆ กับระดับที่ 5 ได้เมื่อใช้เครื่อง stethoscope ในการฟังจะพบว่าเสียงที่ได้ยินนั้นดังกว่าระดับ 5 เป็นอย่างมาก
เสียงหัวใจเต้นผิดปกติของสุนัขมีอยู่ 3 รูปแบบด้วยกัน
ทางการแพทย์ได้ระบุลักษณะเสียงหัวใจผิดปกติของสุนัขออกมาด้วยกัน 3 รูปแบบได้แก่
- Plateau murmur เป็นเสียงดังผิดปกติของหัวใจสุนัขที่มีระดับความดังเท่าเดิมอยู่ตลอดเวลา เสียงดังลักษณะนี้มีสาเหตุมาจากการไหลเวียนของเลือดที่ลิ้นหัวใจของสุนัขมีความผิดปกติเกิดขึ้นมา
- Crescendo-decrescendo murmur รูปแบบนี้เสียงของหัวใจสุนัขจะเป็นแบบเสียงดังขึ้นมาก่อนแล้วเสียงจะค่อยๆ บางลงในเวลาต่อไปแล้วก็จะดังขึ้นอีกทีหนึ่งสาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าระบบการไหลเวียนในเลือดของสุนัขมีความผิดปกติเกิดขึ้น
- Decrescendo murmur การดังลักษณะนี้ก็จะคล้ายๆ กับแบบที่ 2 ที่เสียงของหัวใจจะเริ่มจากดังก่อนแล้วจะค่อยๆ เบาลงเมื่อเวลาผ่านไป สาเหตุนั้นเกิดจากระบบการไหลเวียนเลือดของสุนัขนั้นมีบางจุดเกิดการอุดตันขึ้นมา
สาเหตุ
สาเหตุที่ทำให้สุนัขมีเสียงหัวใจเต้นผิดปกตินั้นเกิดมาจาก
- การไหลผ่านของเลือดในส่วนลิ้นหัวใจนั้นมีความผิดปกติเกิดขึ้นมาจนทำให้โครงสร้างการไหลเวียนของเลือดเปลื่ยนแปลงไป
- มีบางสิ่งบางอย่างเข้าไปทุกให้การไหลเวียนของเลือดเกิดการอุดตันจนทำให้หลอดเลือดแดงใหญ่ขยายตัวขึ้นมากกว่าปกติ
- มีรูรั่วเกิดขึ้นที่ผนังกั้นห้องหัวใจของสุนัขตัวนั้น
- รวมถึงอาการผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นตรงบริเวณห้องหัวใจของสุนัข
โรคอื่นๆ
โรคบางโรคก็สามารถทำให้สุนัขมีอาการหัวใจเต้นผิดปกติขึ้นมาได้เหมือนกันอย่างเช่น
- ต่อมไทรอยด์อักเสบ
- โรคพยาธิในหัวใจ
- โรคกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง
- โรคสภาพหัวใจพิการ
การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะใช้อุปกรณ์ช่วยฟังเสียงหัวใจอย่าง stethoscope เข้ามาช่วยฟังเสียงหัวใจของสุนัข ซึ่งทางสัตวแพทย์จะตั้งใจฟังอย่างละเอียดว่าเสียงที่ดังออกมานั้นเป็นเสียงลักษณะใดเพื่อจะจําแนกได้ว่าตอนนี้หัวใจของสุนัขมีอาการผิดปกติตรงส่วนไหนเกิดขึ้นมาบ้าง ร่วมถึงการสัตวแพทย์จะฟังเสียงของปอดสุนัขร่วมด้วย
- อีกทั้งเพื่อที่จะทำให้การวินิจฉัยแม่นยำมากยิ่งขึ้นทางสัตวแพทย์จะใช้การทดสอบต่างๆ เพื่อระบุว่าตรงส่วนไหนของหัวใจสุนัขมีความผิดปกติเกิดขึ้นมาบ้างซึ่งวิธีที่จะทดสอบนั้นได้แก่วิธี ตรวจเอกซเรย์ปอด, การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (echocardiography) การตรวจทั้งสองอย่างนี้จะช่วยให้ทางสัตวแพทย์สามารถทราบได้ว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นตรงส่วนไหนของหัวใจสุนัขบ้าง
การรักษาจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะรักษาไปตามอาการที่ตรวจพบเจอ
- ถ้าตรวจพบว่าสุนัขมีอาการเสียงหัวใจผิดปกติอย่างรุนแรงจนมีความเสี่ยงที่จะเป็นสภาวะหัวใจวายได้ทางสัตวแพทย์ก็จะให้สุนัขตัวนั้นนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด
- แต่ในทางกลับกันถ้าตรวจพบว่าเสียงหัวใจผิดปกตินั้นเป็นเพียงแค่เสียงเริ่มต้นหรือมีเสียงเบาๆ เท่านั้นทางสัตวแพทย์ถือว่าในกรณีนี้ไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อสุนัขก็จะปล่อยตัวให้กลับบ้านได้
- เพราะอาการเสียงหัวใจผิดปกติระดับหนึ่งนั้นสามารถหายได้ด้วยตัวเองเมื่อเวลาผ่านไป
- และทุกครั้งหลังจากการักษาเสร็จทางสัตวแพทย์จะทำการนัดตรวจพบสุนัขของคุณต่ออีกครั้ง
- เพื่อที่จะได้ติดตามผลว่าเสียงผิดปกติในหัวใจของสุนัขนั้นมีอาการที่ดีขึ้นหรือมีอาการทรุดตัวลง เพื่อจะได้ทำการประเมินผลและหาวิธีรักษาในขั้นตอนต่อไป