เวลาคุณพาสุนัขไปตรวจสุขภาพเค้าตรวจอะไรให้บ้าง

เวลาคุณพาสุนัขไปตรวจสุขภาพเค้าตรวจอะไรให้บ้าง

บทนำ

บทความนี้จะมาบอกเล่าให้คุณผู้อ่านฟังว่าเวลาที่คุณพาสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพกับทางสัตวแพทย์ทางสัตวแพทย์จะตรวจอะไรให้กับสุนัขของคุณบ้างถ้าคุณผู้อ่านคนไหนกำลังสนใจเรื่องนี้กันอยู่สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ

สัตวแพทย์ตรวจสุขภาพอะไรให้กับสุนัขของคุณบ้าง

1. ข้อมูลของสุนัขจะถูกบันทึกลงในคอมพิวเตอร์

ทุกๆ การตรวจสุขภาพของสุนัขจะถูกเก็บบันทึกข้อมูลลงไปในคอมพิวเตอร์ เผื่อในกรณีที่สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคต่างๆ ขึ้นมา

ทางสัตวแพทย์จะได้ดึงบันทึกที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ออกมา โดยทางสัตวแพทย์จะทราบได้ว่าสุขภาพของสุนัขเป็นอย่างไร สุนัขมีโรคประจำตัวหรือไม่ ก่อนหน้านั้นสุนัขเคยป่วยเป็นโรคอะไรบ้าง

2. วัดอุณหภูมิในร่างกายของสุนัข

สิ่งแรกที่ทางสัตวแพทย์จะทำเมื่อคุณพาสุนัขไปตรวจร่างกายก็คือ ทางสัตวแพทย์จะทำการวัดอุณหภูมิในร่างกายให้กับสุนัขของคุณ โดยปกติแล้วอุณหภูมิในร่างกายของสุนัขจะอยู่ที่ประมาณ 101-102.5 องศาฟาเรนไฮต์

ซึ่งอุณหภูมิปกติของสุนัขจะสูงกว่าอุณหภูมิปกติในร่างกายของมนุษย์เล็กน้อย สำหรับการวัดอุณหภูมิในร่างกายของสุนัข ทางสัตวแพทย์จะใช้ปรอทสอดเข้าไปที่ทวารหนักของสุนัขเพื่อวัดอุณหภูมิในร่างกายของสุนัข

สุนัขตรวจสุขภาพอะไรบ้าง

3.ตรวจสภาพผิวหนังของสุนัข

ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจดูสภาพผิวหนังและขนของสุนัขอย่างเบื้องต้นก่อน ในกรณีที่สุนัขของคุณมีสุขภาพขนที่ดี ขนของสุนัขจะนุ่มลื่นและเงางามอยู่ตลอดเวลา ส่วนสุนัขที่มีสุขภาพผิวหนังที่ดีนั้น ผิวหนังของสุนัขจะสะอาดไม่มัน รวมถึงผิวของสุนัขจะไม่แตกลาย

ในขั้นตอนนี้ถ้าทางสัตวแพทย์ตรวจพบว่าผิวหนังและขนสุนัขของคุณมีสุขภาพที่ไม่ดี ทางสัตวแพทย์ก็จะทำการปรับเมนูอาหารที่สุนัขทานอยู่เป็นประจำ ให้เป็นเมนูอาหารเมนูใหม่ ที่มีส่วนช่วยบำรุงเส้นขนและผิวหนังของสุนัขให้กลับมาแข็งแรงเป็นปกติดังเดิม

รวมถึงในขั้นตอนนี้ถ้าทางสัตวแพทย์ตรวจพบว่าสุนัขของคุณมีเห็บและหมัดอาศัยอยู่บนร่างกาย ทางสัตวแพทย์ก็จะทำการรักษาเห็บหมัดให้กับสุนัขของคุณ

4. ตรวจปอดและหัวใจของสุนัข

ต่อมาทางสัตวแพทย์จะใช้หูฟังทำการตรวจที่หน้าอกของสุนัข เพื่อฟังเสียงของปอดและเสียงหัวใจของสุนัขว่า ในตอนนี้ปอดและหัวใจของสุนัขยังทำงานเป็นปกติดีอยู่หรือไม่

ในกรณีที่ทางสัตวแพทย์ได้ยินเสียงหัวใจเต้นผิดจังหวะ ทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติม ด้วยการใช้เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ กับการเอกซเรย์ตรงบริเวณส่วนที่ได้ยินเสียงหัวใจเต้นผิดปกติ เพื่อประเมินว่าสุนัขของคุณกำลังป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจอะไรอยู่หรือเปล่า

ตรวจสุขภาพหูของสุนัข

5. ตรวจใบหูทั้งสองข้าง

สิ่งต่อมาที่ทางสัตวแพทย์จะทำต่อไปก็คือ การตรวจใบหูทั้งสองข้างของสุนัขอย่างละเอียด

โดยทางสัตวแพทย์จะดูว่าใบหูของสุนัขเป็นอย่างไรบ้าง มีอาการแพ้ หรือมีอาการติดเชื้อเกิดขึ้นที่ใบหูของสุนัขหรือไม่

ในกรณีที่ทางสัตวแพทย์ตรวจพบว่าหูของสุนัขพึ่งเริ่มมีอาการติดเชื้อ ทางสัตวแพทย์จะทำการรักษาโดยการทำความสะอาดที่ใบหูและช่องหูของสุนัขพร้อมทั้งใช้ยาสำหรับฆ่าเชื้อชนิดนั้นๆ ให้กับหูของสุนัข

6. ตรวจช่องท้องของสุนัข

หลังจากตรวจหัวใจของสุนัขเสร็จแล้ว ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจที่บริเวณท้องของสุนัขอย่างละเอียด เพื่อดูว่าอวัยวะต่างๆ ที่อยู่ในช่องท้องของสุนัขยังทำงานเป็นปกติดีอยู่หรือเปล่า

รวมถึงจะทำการคลำท้องของสุนัข เพื่อหาดูว่าในบริเวณช่องท้องของสุนัขมีเนื้องอกอะไรเกิดขึ้นมาหรือเปล่า มีนิ่วในกระเพาะปัสสาวะอยู่หรือเปล่า

ถ้าในกรณีของสุนัขตัวเมียการคลำท้อง จะช่วยให้ทางสัตวแพทย์ทราบได้ว่าสุนัขตัวนั้นกำลังตั้งครรภ์อยู่หรือเปล่า

7. ตรวจช่องปาก

ต่อจากนั้นทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจช่องปากของสุนัขอย่างละเอียด สุขภาพในช่องปากของสุนัขเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าคุณปล่อยปละละเลยไม่ดูแลสุขภาพช่องปากของสุนัขให้ดีๆ แล้วก็ละ

มันจะทำให้ฟันของสุนัขเกิดผุขึ้นมาได้ รวมถึงทำให้สุนัขมีอาการเหงือกอักเสบอีกด้วย ถ้าคุณปล่อยให้สุนัขของคุณเป็นโรคเหล่านี้ มันจะมีโอกาสสูงมากที่เชื้อโรค รวมถึงเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในช่องปากของสุนัข สามารถเข้าสู่ร่างกายของสุนัขได้

โดยทางสัตวแพทย์จะดูว่า สุนัขของคุณมีฟันผุอยู่หรือเปล่า สุขภาพเหงือกของสุนัขเป็นอย่างไรบ้าง มีอาการเหงือกอักเสบอยู่หรือเปล่า มีสิ่งแปลกปลอมอะไรติดอยู่ในฟันของสุนัขหรือเปล่า มีเนื้องอกเกิดขึ้นที่บริเวณช่องปากของสุนัขหรือเปล่า

ตรวจสุขภาพดวงตาของสุนัข

8. ตรวจดวงตาของสุนัข

หลังจากตรวจสุขภาพช่องปากของสุนัขเสร็จสิ้นแล้วสิ่งต่อมาที่ทางสัตวแพทย์จะทำนั้นก็คือ การตรวจดวงตาของสุนัขอย่างละเอียด

โดยทางสัตวแพทย์จะตรวจทั้งภายในดวงตาและก็บริเวณรอบนอกดวงตาของสุนัข รวมถึงเปลือกตาของสุนัข ด้วยเครื่องมือพิเศษที่ใช้สำหรับตรวจดวงตาของสุนัขโดยเฉพาะ

โดยทางสัตวแพทย์จะดูว่าดวงตาของสุนัขยังทำงานเป็นปกติดีอยู่หรือเปล่า มีภาวะต้อกระจกเกิดขึ้นที่ดวงตาของสุนัขหรือไม่

9. ตรวจอุ้มเท้าของสุนัข

และก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจบริเวณอุ้งเท้าทั้งสี่ข้าง กับเล็บเท้าของสุนัขอย่างละเอียด โดยที่ทางสัตวแพทย์จะดูว่าเล็บของสุนัขมีขนาดที่ยาวเกินไปจนต้องตัดเล็บออกหรือเปล่า รวมถึงที่บริเวณอุ้มเท้าทั้งสี่ข้างของพวกมันมีบาดแผลอะไรเกิดขึ้นมาหรือไม่

ทำอะไรต่อเมื่อตรวจสุขภาพสุนัขเสร็จแล้ว

หลังตรวจสุขภาพของสุนัขเสร็จ

เมื่อสุนัขของคุณตรวจสุขภาพจนเสร็จทุกขั้นตอนแล้ว ทางสัตวแพทย์ก็จะทำการบันทึกข้อมูลเหล่านั้นจัดเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ เพื่อจะได้เรียกออกมาใช้ในคราวต่อไปเมื่อสุนัขของคุณป่วย หรือคุณพาสุนัขของคุณมาตรวจสุขภาพครั้งต่อไป

เสร็จแล้วทางสัตวแพทย์จะทำการสรุปผลข้อมูลต่างๆ ว่าในตอนนี้สุขภาพของสุนัขเป็นอย่างไรบ้างพวกมันกำลังป่วยเป็นโรคอะไรอยู่หรือเปล่า สุนัขของคุณขาดสารอาหารประเภทไหนบ้าง มีอาหารชนิดไหนที่ต้องงดหรือเปล่า สุนัขของคุณออกกำลังกายน้อยไปหรือเปล่า ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณรู้ว่า คุณจะต้องทำอะไรต่อไปเพื่อให้สุนัขของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ดีอยู่เสมอ

ค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพของสุนัข

ในปัจจุบันนั้นค่าตรวจสุขภาพของสุนัขนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 2000 – 4000 บาทต่อสุนัขหนึ่งตัวซึ่งราคาจะเปลื่ยนแปลงไปตามโปรแกรมตรวจสุขภาพตามที่ทางโรงพยาบาลต่างๆ จัดขึ้นมา