พิษของเห็ดในสุนัข
โดยหลักๆ ทางการแพทย์จะแบ่งประเภทของเห็ดพิษออกมาเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ ด้วยกันได้แก่ A B C D ซึ่งเห็ดพิษแต่ละชนิดนั้นก็จะให้ผลกระทบกับร่างกายของสุนัขต่างแตกกันไป
ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้สุนัขได้รับสารพิษจากเห็ดนั้นเกิดจากการที่คุณปล่อยให้สุนัขของคุณได้ไปวิ่งเล่นนอกบ้านหรือไปวิ่งเล่นในป่า แล้วระหว่างที่สุนัขกำลังเพลิดเพลินกับการวิ่งเล่นอยู่นั้นพวกมันเกิดเผลอไปทานเห็ดพิษที่ขึ้นอยู่ระหว่างทางเข้า จนทำให้สุนัขของคุณได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย
การจะรักษาคุณต้องรีบพาสุนัขของคุณไปรักษากับทางสัตวแพทย์และเพื่อให้การรักษาของทางสัตวแพทย์สะดวกยิ่งขึ้นคุณควรจะเก็บเห็ดที่คุณสงสัยว่าสุนัขของคุณทานเข้าไปให้ทางสัตวแพทย์ได้ดูด้วย
เห็ดพิษมีอยู่ทั้งหมดด้วยกัน 4 กลุ่มได้แก่
- เห็ดพิษกลุ่ม A นั้นถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความร้ายแรงที่สุดเป็นเห็ดพิษที่ส่งผลโดยตรงต่อระบบตับและไตของสุนัข เมื่อสุนัขทานเห็ดชนิดนั้นเข้าไปแล้วจะมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดอาการไตวายอย่างเฉียบพลันจนทำให้สุนัขตัวนั้นเสียชีวิตได้ เห็ดพิษชนิดเหล่านั้นได้แก่ Amanita ocreata ,Lepiota ,Galerina
- เห็ดพิษกลุ่ม B กับ กลุ่ม C เป็นเห็ดพิษที่ส่งผลโดยตรงต่อระบบประสาทยังถือว่าเป็นเห็ดพิษที่ค่อนข้างร้ายแรงต่อระบบประสาทของสุนัขเป็นอย่างมากคุณจะต้องรีบพาสุนัขของคุณไปถึงมือสัตวแพทย์ให้โดยเร็วที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ ซึ่งเห็ดพิษในกลุ่มนี้ได้แก่ Conocybe ,Gymnopilus, Psilocybe ,Panaeolus
- เห็ดพิษกลุ่ม D เป็นเห็ดพิษที่ในทำให้สุนัขเกิดอาการระแคะระคายเคืองบนกระเพาะอาหารของสุนัขซึ่งทางการแพทย์ถือว่าเห็นพิษกลุ่ม D นั้นยังไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อสุนัขมากนักแต่ถ้าจะให้ดีทางเจ้าของสุนัขควรจะพาสุนัขไปล้างท้องให้โดยเร็วที่สุด ซึ่งเห็ดพิษชนิดเหล่านี้ได้แก่ Boletus ,Chlorophyllum ,Entolomo
อาการต่างๆ เมื่อสุนัขทานเห็ดพิษเข้าไป
โดยหลักๆ เมื่อสุนัขทานเห็ดที่มีพิษเข้าไปพวกมันจะแสดงอาการต่างๆ ออกมาดังต่อไปนี้
- สุนัขของคุณจะมีอาการอ้วกหรืออาเจียนออกมา
- สุนัขของคุณจะมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงร่วมถึงมีอาการท้องเสียร่วมเข้ามาด้วย
- สุนัขของคุณจะมีอาการซึมเศร้าอย่างเห็นได้ชัดพวกมันจะไม่ร่าเริงเหมือนที่เป็นอยู่
- ผิวหนังของสุนัขจะเปลื่ยนไปจากสีปกติกลายเป็นสีเหลืองพร้อมทั้งสีของดวงตาจะเปลื่ยนจากสีปกติกลายเป็นสีเหลืองอีกด้วย
- สุนัขของคุณจะมีอาการชักและหมดสติไปร่วมถึงมีอาการน้ำลายฟูมปากร่วมด้วย
การวินิจฉัยโรคจากทางสัตวแพทย์
สิ่งแรกที่ทางสัตวแพทย์จะทำก็คือ การถามประวัติของสุนัขตัวนั้นอย่างละเอียดว่าก่อนหน้านั้นเคยล้มป่วยเป็นโรคอะไรมาก่อนหรือเปล่า รวมถึงเหตุการณ์ที่พึ่งขึ้นหลังจากสุนัขได้รับสารพิษจากเห็ดเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ว่าสุนัขตัวนั้นกินเห็ดประเภทไหนมา
หลังจากสอบถามข้อมูลของสุนัขอย่างละเอียดแล้วต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจเลือดกับตรวจค่าปัสสาวะของสุนัขตัวนั้นเพื่อดูว่าค่าระบบการทำงานต่างๆ ในร่างกายของสุนัขมีอะไรเปลื่ยนแปลงไปบ้าง
โดยสิ่งที่ทางสัตวแพทย์จะให้ความสำคัญก็คือ ค่าระดับน้ำตาลในเลือดกับค่าเอนไซม์ในร่างกายซึ่งสองค่านี้จะเป็นตัวบ่งบอกว่าตับของสุนัขตัวนั้นถูกทำลายไปขนาดไหนแล้ว
รวมถึงทางสัตวแพทย์จะเก็บเศษอาหารบางส่วนในกระเพาะอาหารของสุนัขเพื่อนำไปตรวจสอบว่าสุนัขตัวนั้นทานเห็ดชนิดไหนเข้าไปในร่างกาย
การรักษาเห็ดพิษในสุนัข
ทางการแพทย์ถือว่าอาการที่สุนัขได้รับสารพิษจากเห็ดนั้นถือว่าเป็นอาการที่ร้ายแรงเป็นอย่างมากคุณจะต้องรีบการสุนัขของคุณเข้ารับการรักษาจากทางสัตวแพทย์โดยทันที
โดยสิ่งแรกที่ทางสัตวแพทย์จะใช้ในการรักษาสุนัขที่ได้รับสารพิษจากเห็ดนั้นก็คือ ทางสัตวแพทย์จะให้สุนัขตัวนั้นทานยา activated charcoal เข้าไปในร่างกายซึ่งตัวยาตัวนี้จะมีส่วนช่วยขับสารพิษออกจากลำไส้กับกระเพาะอาหารของสุนัขได้
รวมถึงทางสัตวแพทย์จะให้สารน้ำเข้าไปในร่างกายของสุนัขเพื่อให้สุนัขได้ปัสสาวะเอาสารพิษบางส่วนออกมาจากร่างกายร่วมอีกด้วย
อีกทั้งทางสัตวแพทย์จะหาทางกระตุ้นให้สุนัขเกิดการอาเจียนเอาสารพิษร่วมอีกด้วย การทำแบบนี้จะเป็นการช่วยให้สุนัขตัวนั้นเอาสารพิษจากเห็ดออกมาจากร่างกายจนหมด
ข้อควรรู้เพิ่มเติมเมื่อสุนัขได้รับสารพิษจากเห็ด
- สุนัขจะสามารถฟื้นตัวได้เร็วหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถพาสุนัขของคุณไปล้างท้องได้เร็วหลังจากที่พวกมันทานเห็ดพิษได้เร็วมากน้อยแค่ไหน
- ถ้าคุณพาไปล้างท้องจากหลังที่พวกมันทานเห็ดพิษไปไม่นานก็จะทำให้ร่างกายของพวกมันฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น
- แต่ในทางกลับกันถ้าคุณพาไปล้างท้องช้าสุนัขของคุณก็อาจจะใช้เวลาฟื้นตัวประมาณ 3 -4 สัปดาห์ได้
- แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับชนิดของเห็ดพิษและปริมาณที่สุนัขของคุณทานเข้าไปในร่างกาย
- มีเห็ดพิษบางชนิดส่งผลโดยตรงต่อตับและไตของสุนัข ในช่วงแรกๆ หลังจากการรักษาทางสัตวแพทย์จะทำการนัดตรวจสุนัขของคุณอย่างต่อเนื่องเพื่อดูว่าค่าตับและค่าไตของสุนัขนั้นกลับมาเป็นปกติแล้วหรือยัง
- ช่วงหลังจากการรักษาในช่วงเวลาประมาณ 48 ชั่วโมงต่อจากนี้ให้คุณคอยเฝ้าดูอาการของสุนัขอย่างใกล้ชิด
- เพราะว่าอาจจะมีสารพิษบางส่วนหลงเหลืออยู่ในร่างกายจนทำให้สุนัขของคุณแสดงอาการออกมาได้
- ถ้าหาคุณพบว่าสุนัขของคุณยังมีอาการผิดปกติอยู่ให้คุณรีบพาสุนัขของคุณกลับไปพบกับทางสัตวแพทย์โดยทันที