บทนำ
บทความนี้ได้ทำการรวบรวม 9 คำถามยอดฮิตในการเลี้ยงลูกสุนัข โดยคำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่คนพึ่งเลี้ยงสุนัขส่วนใหญ่นิยมถามกันไม่ว่าจะเป็น เรื่องอาหารการกิน
การอาบน้ำ การนอน การพาลูกสุนัขไปหาหมอ การทำให้ลูกสุนัขเปิดใจกับคุณมากยิ่งขึ้น โดยบทความนี้จะมาช่วยตอบคำถามข้อสงสัยเหล่านี้ให้กับคุณเอง
ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนกำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ หรือคุณเป็นคนที่พึ่งเลี้ยงสุนัขครั้งแรก คุณก็สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ ไปเป็นไกด์นำทางในการเลี้ยงลูกสุนัขของคุณก็ได้เหมือนกันครับ
เอาละเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับว่า 9 คำถามที่คนเลี้ยงสุนัขส่วนใหญ่ชอบถามกันในโลกอินเตอร์เน็ตนั้น มีอะไรกันบ้าง
9 คำถามยอดฮิตในการเลี้ยงลูกสุนัข
1. ทำไมลูกสุนัขถึงดูเศร้าเมื่อเข้ามาอยู่ในบ้านใหม่
ในช่วงแรกๆ ลูกสุนัขจะยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานที่ใหม่ๆ ในบ้านของคุณได้ จึงทำให้ลูกสุนัขรู้สึกเครียด และวิตกกังวลอยู่ตลอดเวลา
จึงทำให้ลูกสุนัขมักจะทำหน้าเศร้าๆ ในช่วงเวลาประมาณ 1 – 2 เดือนแรกที่คุณพาเข้ามาอยู่ในบ้านของคุณ แต่คุณไม่ต้องกังวลอะไรมานักเพราะเดี๋ยวเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 เดือน ลูกสุนัขของคุณก็จะสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ได้บ้านของคุณได้เอง
แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ลูกสุนัขของคุณต้องทำหน้าเศร้าๆ อยู่อย่างนี้ไปอีก 1 – 2 เดือน คุณก็สามารถทำให้ลูกสุนัขของคุณปรับตัวให้เข้ากับบ้านของคุณได้เร็วยิ่งขึ้นได้ด้วยการ
ให้คุณคอยมอบความรัก ความเอาใจใส่ให้ลูกสุนัของคุณอยู่เป็นประจำ คอยมาพูดคุยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน กับคอยเล่นกับลูกสุนัขของคุณอยู่เป็นประจำ
รวมถึงให้คุณจัดข้าวของเครื่องใช้ในบ้านของคุณให้เป็นระเบียบ อย่าให้มีสิ่งของกีดขวางทางเดินของสุนัข เพื่อให้ลูกสุนัขได้เดินเล่นสำรวจพื้นที่ในบ้านของคุณได้อย่างสบายใจ
รวมถึงคุณควรหาเสื้อเช็คตัวที่สะอาดมาหนึ่งผื่น แล้วเช็คตัวลูกสุนัขของคุณให้กลิ่นตัวของพวกมันติดอยู่บนผ้า แล้วให้คุณนำผ้าเช็คตัวผื่นนั้น ไปถูไปเช็คตามพื้นที่ต่างๆ ในบ้านของคุณ หรือเฉพาะตรงจุดที่ลูกสุนัขอาศัยอยู่เป็นประจำ
การทำแบบนี้จะช่วยให้ลูกสุนัขรู้สึกผ่อนคลาย คลายความกังวลลง จากการที่พวกมันรู้สึกว่ากลิ่นตัวของพวกมัน เกาะติดอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ในบ้านของคุณ
2. ทำไมลูกสุนัขดูสั่นๆ
อาการสั่นของลูกสุนัขมีได้หลากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็น ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำจากการขาดสารอาหาร ,สุนัขเกิดอาการหวาดกลัวจากสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ หรือในพื้นที่ที่พวกมันอาศัยอยู่มีอากาศที่หนาวจัด
ซึ่งคุณต้องคอยสังเกตว่าต้นเหตุที่ทำให้ลูกสุนัขของคุณเกิดอาการสั่นนั้นเกิดจากสาเหตุใด และพบคุณพบแล้ว ก็ให้คุณแก้ที่ต้นเหตุนั้นอย่างเช่น ถ้าคุณพบว่าลูกสุนัขเกิดอาการสั่นเพราะความหนาวจากแอร์คุณ ก็ให้คุณทำการปิดแอร์แล้วหาผ้ามาให้ลูกสุนัขของคุณห่ม
แต่ในทางกลับกันถ้าคุณไม่สามารถหาสาเหตุได้ว่า ทำไมลูกสุนัขของคุณถึงมีอาการสั่น ก็ให้คุณพาลูกสุนัขของคุณไปหาสัตวแพทย์ เพื่อให้ทางสัตวแพทย์ควรตรวจสอบดูว่า สาเหตุที่ทำให้ลูกสุนัขของคุณสั่นนั้น เกิดจากสาเหตุใดกันแน่น
3. ต้องรอให้ลูกสุนัขมีอายุประมาณเท่าไหร่ถึงจะพาออกไปเดินเล่นนอกบ้านได้
โดยทั่วไปแล้วเมื่อลูกสุนัขมีอายุได้ประมาณ 4 – 5 เดือน คุณก็สามารถพาลูกสุนัขของคุณออกไปเดินเล่นนอกบ้านได้แล้ว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนที่คุณจะพาลูกสุนัขของคุณออกไปเดินเล่นนอกบ้านได้นั้น คุณต้องพาลูกสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ ให้ครบตามที่กำหนดเสียก่อน
คุณถึงจะพาลูกสุนัขออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านได้ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นลูกสุนัขของคุณอาจจะป่วยเป็นโรคต่างๆ ได้ง่ายถ้าไปสัมผัสกับเชื้อโรคต่างๆ ที่อยู่นอกบ้าน
4. ควรให้ลูกสุนัขทานอาหารวันละกี่มื้อ
ในช่วงที่สุนัขกำลังเป็นลูกสุนัขอยู่นั้น ร่างกายของพวกเค้าจะต้องการสารอาหารประเภทต่างๆ เพื่อมาเสริมสร้างให้ร่างกายของพวกเค้าเจริญเติบโตแข็งแรงสมวัย
ดังนั้นในช่วง 12 เดือนแรก หรือช่วงเวลาที่ลูกสุนัขยังมีอายุไม่ครบ 1 ขวบ คุณควรให้ลูกสุนัขของคุณทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละวัน โดยให้ลูกสุนัขของคุณทานอาหารให้ได้วันละประมาณ 3 – 4 มื้อแต่วัน
โดยให้คุณกะปริมาณอาหารแต่ละมื้อตามน้ำหนักตัวของสุนัข แต่ถ้าคุณไม่รู้ว่าควรจะให้ลูกสุนัขทานอาหารในปริมาณเท่าไหร่ในแต่ละมื้อดี คุณก็สามารถโทรไปขอคำแนะนำจากทางสัตวแพทย์ก็ได้เหมือนกัน
และถ้าจะให้ดีคุณควรให้ลูกสุนัขทานนมแพะ อาหารเปียก กับขนมบ้างเป็นบางครั้ง เพราะถ้าคุณให้ลูกสุนัขของคุณทานแต่อาหารเม็ดปั่นกับน้ำเปล่า มันอาจจะทำให้ลูกสุนัขของคุณรู้สึกเบื่ออาหารขึ้นมาได้
และเมื่อลูกสุนัขของคุณมีอายุครบ 1 ปี หรือเจริญเติบโตจนเต็มวันแล้ว คุณก็ลดจำนวนเหลืออาหารเหลือวันละ 2 มื้อก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
5. ทำไมลูกสุนัขถึงไม่เล่นกับฉันเลย
ในช่วงแรกๆ ลูกสุนัขอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับคุณ พวกมันจึงรู้สึกแปลกๆ ถ้าจะเข้าไปเล่นกับคุณ ดังนั้นจึงต้องเป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องหาวิธีสร้างความสัมพันธุ์ระหว่างคุณกับสุนัขของคุณ
ซึ่งคุณสามารถทำให้ลูกสุนัขเปิดใจให้กับคุณมากขึ้นโดยการ
- ให้คุณลองอุ้มลูกสุนัขของคุณดู
- เข้าไปสัมผัส ลูบหัว ลูบตัวของลูกสุนัข
- พูดกับลูกสุนัขด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน และเป็นกันเอง
- หมั่นแปรงขนให้กับลูกสุนัขของคุณอย่างเบาๆ อยู่เป็นประจำ
- หาของเล่นประเภทต่างๆ มาเล่นกับลูกสุนัขของคุณบ้าง
ให้คุณทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วลูกสุนัขของคุณก็จะเริ่มเปิดใจให้กับคุณเอง
6. ลูกสุนัขสามารถอาบน้ำได้ครั้งแรกเมื่อไหร่
คุณสามารถอาบน้ำให้กับลูกสุนัขของคุณได้ตั้งแต่ตอนที่พวกมันมีอายุครบ 2 เดือน โดยน้ำที่คุณใช้อาบควรจะเป็นน้ำอุ่นที่ไม่ร้อนจัดจนเกินไป และต้องไม่ใช่น้ำที่เย็นจัดจนเกินไปด้วย
ส่วนแชมพูที่ใช้ในการอาบน้ำให้กับลูกสุนัข ควรแชมพูอาบน้ำสูตรถนอมผิวสำหรับลูกสุนัขแต่เพียงเท่านั้น เพราะลูกสุนัขจะมีสภาพผิวหนังที่บอบบางกว่าสุนัขที่โตจนเต็มวัยแล้ว
ถ้าการใช้แชมพูสำหรับสุนัขสูตรปกติอาจจะสร้างความระคายเคืองให้กับผิวหนังของลูกสุนัขได้ ส่วนจำนวนครั้งในการอาบน้ำให้กับลูกสุนัข ควรจะอยู่ที่ประมาณ 1 – 2 ครั้งต่อเดือน
คุณไม่ควรอาบน้ำให้กับลูกสุนัขบ่อยครั้งจนเกินไป เพราะมันจะทำให้ผิวหนังของลูกสุนัขเกิดแห้งกร้านขึ้นมาได้ ซึ่งมันจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ลูกสุนัขป่วยเป็นโรคผิวหนังได้ง่ายกว่าปกติ
7. ฉันควรพาลูกสุนัขไปตรวจสุขภาพกับทางสัตวแพทย์ไหม
เป็นสิ่งที่คุณควรทำเป็นอันดับแรกๆ หลังจากที่คุณพาลูกสุนัขเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านนั้นก็คือ การพาลูกสุนัขไปตรวจสุขภาพกับทางสัตวแพทย์
ซึ่งการตรวจสุขภาพนั้นจะทำให้คุณรู้ว่าลูกสุนัขของคุณกำลังป่วยเป็นโรคอะไรอยู่หรือเปล่า ลูกสุนัขของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ครบถ้วนหรือเปล่า
ลูกสุนัขของคุณได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ ที่จำเป็นไปแล้วหรือยัง ถ้ายังทางสัตวแพทย์จะทำการฉีดวัคซีนให้กับลูกสุนัขของคุณเลย
โดยก่อนที่จะทำการฉีดวัคซีนให้กับลูกสุนัข ทางสัตวแพทย์จะขออนุญาตจากคุณก่อนว่า คุณอนุญาตให้ลูกสุนัขฉีดวัคซีนไหม
และถ้าคุณอนุญาตทางสัตวแพทย์ก็จะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ ที่ร้ายแรงต่อร่างกายของสุนัขอย่างเช่น วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า กับวัคซีนป้องกันโรคพยาธิหนอนหัวใจ เป็นต้น
ซึ่งโรคดังกล่าวอาจจะทำให้ลูกสุนัขของคุณเสียชีวิตลงได้ในทันที ถ้าลูกสุนัขของคุณเกิดป่วยเป็นโรคเหล่านี้ขึ้นมา
8. ฟันแท้ของลูกสุนัขขึ้นครบเมื่ออายุเท่าไหร่
โดยปกติแล้วฟันน้ำนมของลูกสุนัขจะค่อยๆ หลุดออกมาจนหมดเมื่อลูกสุนัขมีอายุได้ประมาณ 4 – 6 เดือน และฟันแท้จะค่อยๆ งอกขึ้นมาแทนที่จนสมบูรณ์ เมื่อลูกสุนัขมีอายุครบ 1 ปีบริบูรณ์
9. ลูกสุนัขควรนอนวันละกี่ชั่วโมง
การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยเสริมสร้างให้ลูกสุนัขมีสุขภาพที่แข็งแรง มีร่างกายที่เจริญเติบโตสมวัย ซึ่งช่วงเวลาพักผ่อนที่เหมาะสมกับลูกสุนัขควรจะอยู่ที่ประมาณ 15 – 18 ชั่วโมงต่อวัน
และเพื่อให้ลูกสุนัขของคุณนอนหลับพักผ่อนได้สนิทมากยิ่งขึ้น คุณควรจัดเตรียมห้องนอนให้ลูกสุนัขของคุณได้รับการพักผ่อนโดยเฉพาะ
โดยห้องที่คุณจัดไว้ควรจะเป็นห้องที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ปราศจากสิ่งรบกวนต่างๆ ทั้งจากภายในตัวบ้านและก็จากนอกบ้าน ซึ่งห้องลักษณะนี้ จะช่วยให้ลูกสุนัขของคุณนอนหลับได้สบายมากยิ่งขึ้น