8 งูพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของสุนัข

งูเห่ามีพิษร้ายแรงต่อร่างกายของสุนัข

บทนำ

บทความนี้เราจะมาพูดถึง 8 งูพิษร้ายแรงที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย พิษของงูพิษเหล่านี้จะส่งผลโดยตรงต่อร่ากายของสุนัขจนทำให้สุนัขของคุณเสียชีวิตลงได้

โดยบทความนี้จะมาบอกกับคุณผู้อ่านว่างูพิษเหล่านั้นมีสายพันธุ์อะไรบ้าง และคุณควรทำอย่างไรเมื่อคุณพบว่าสุนัขของคุณถูกงูพิษกัดเอา

ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนที่กำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ ก่อนอื่นเรามาเริ่มจาก

สุนัขถูกงูพิษกัด

การที่สุนัขถูกงูพิษกัดนั้น ถือว่าเป็นภัยเงียบที่คนเลี้ยงสุนัขส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะรู้กันว่าเป็นอันตรายต่อสุนัขเป็นอย่างมาก

เพราะการที่สุนัขถูกงูพิษกัดอาจจะทำให้สุนัขตัวนั้นเสียชีวิตลงได้ในทันที คุณรู้หรือไม่ว่าในแต่ละปีมีสุนัขในประเทศไทยต้องเสียชีวิตจากการถูกงูพิษกัดถึงปีละ 5000 – 9000 ตัวต่อปีเลยทีเดียว

ดังนั้นขอให้คุณระวังเรื่องเหล่านี้เอาไว้ให้ดีๆ คุณควรระมัดระวังอย่าให้สุนัขของคุณ เข้าใกล้พื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการถูกงูพิษกัดโดยเด็ดขาด

ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วงูมักจะชอบอาศัยอยู่ตามมุมอับภายในบ้าน รวมถึงพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีคนเข้าไปรบกวนอย่างเช่น ตามใต้ถุนบ้าน ใต้หลังคา ฝ้าเพดาน รวมถึงภายในตู้ที่ไม่ค่อยมีการเปิดใช้งาน ดังนั้นขอให้คุณระวังพื้นที่เหล่านี้เข้าไว้ให้ดีๆ

งูจงอางมีพิษร้ายแรงต่อร่างกายของสุนัข

งูพิษที่เป็นอันตรายต่อสุนัข

ในประเทศไทยของเรานั้น จะมีงูพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของสุนัขอยู่ด้วยกันประมาณ 8 ชนิดได้แก่

1. งูเห่า (Cobra)

งูเห่าเป็นงูพิษที่มีพิษร้ายแรงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลย พิษของงูเห่าจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบประสาทของสุนัข

มันจะทำให้สุนัขเกิดอาการกล้ามเนื้อใบหน้ากระตุก กลืนไม่ได้ และอาจจะช็อกหมดสติ สุนัขส่วนใหญ่มักจะเสียชีวิตลงจากพิษงูเห่าด้วยอาการหายใจไม่ออกจนเสียชีวิตลงได้

2. งูจงอาง (King cobra)

งูจงอางนั้นถือว่าเป็นงูพิษที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเลย พิษของงูจงอางจะคล้ายๆ กับพิษของงูเห่า ที่มันจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบประสาทของสุนัข จนทำให้สุนัขเสียชีวิตลงได้

แต่งูจงอางจะค่อนข้างพบได้ยากมากในประเทศไทย เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วงูจงอาจมักจะชอบอาศัยอยุ่ตามดงหญ้าสูง หรือตามป่าทึบ

3. งูสามเหลี่ยม (Banded krait)

งูสายพันธุ์นี้จะมีลักษณะรูปร่างหน้าตาเหมือนเหมือนทรงสามเหลี่ยมเลย โดยส่วนใหญ่แล้วงูสามเหลื่ยมมักจะพบได้ง่ายในภาคใต้ของประเทศไทย งูสามเหลื่ยมมักจะมีนิสัยชอบออกหากินในตอนกลางคืน

4. งูทับสมิงคลา (Malayan krait)

เป็นงูขนาดเล็กแต่มีความคล่องแคล่ว ว่องไวสูงเป็นอย่างมาก พิษของงูทับสมิงคลาจะมีความรุนแรงเทียบเท่ากับพิษของงูเห่าเลย

โดยส่วนใหญ่แล้วงูทับสมิงคลามักพบได้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย

5. งูเขียวหางไหม้ (Green pit viper)

งูเขียวหางไหม้ เป็นงูขนาดเล็กมีความยาวของร่างกายประมาณ 1 เมตร โดยส่วนใหญ่แล้วงูเขียวหางไหม้ มักจะพบในง่ายในเขตกรุงเทพมหานคร

พิษของงูเขียวหางไหม้ จะส่งผลโดยตรงต่อระบบหมุนเวียนโลหิตของสุนัข มันจะทำการเลือดของสุนัขเกิดการแข็งตัว

6. งูแมวเซา (Russell’s viper)

งูสายพันธุ์นี้จะมีลักษณะหัวเป็นรูปสามเหลื่ยมและมีลำตัวเป็นสีน้ำตาล งูแมวเซานั้นจะมีนิสัยชอบส่งเสียงขู่ก่อนที่จะเข้าทำร้ายสุนัข รวมถึงงูแมวเซามักจะมีนิสัยชอบโจมตีศัตรูก่อนที่ศัตรูจะตั้งตัวได้  

พิษของงูแมวเซาจะส่งผลทำให้สุนัขเกิดภาวะไตวายเฉียบพลันจนเสียชีวิตลงได้ งูแมวเซาสามารถพบได้ตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย

7. งูกะปะ (Malayan pit viper)

งูกะปะเป็นงูขนาดเล็กที่มีความยาวของลำตัวไม่ถึง 1 เมตร สามารถพบได้ตามที่ต่างๆ ในประเทศไทย

งูกะปะเป็นงูที่ชอบอยู่นิ่งๆ รักสันโดษไม่ชอบไปยุ่งกับใคร ยกเว้นแต่ว่าจะมีอะไรมารบกวนพวกมัน สำหรับพิษของงูกะปะนั้นจะส่งผลโดยตรงต่อระบบไหลเวียนโลหิตของสุนัข

8. งูทะเล

ตามชื่อเลยงูสายพันธุ์นี้มักจะอาศัยอยู่ในทะเลเป็นหลัก พิษของพวกมันจะส่งผลโดยตรงต่อกล้ามเนื้อของสุนัข

แต่โดยส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยพบงูทะเลพิษในประเทศไทยกันมากเท่าไหร่

งูเขียวหางไหม้มีพิษร้ายแรงต่อร่างกายของสุนัข

จะทำอย่างไรเมื่อสุนัขถูกงูพิษกัดเอา

สิ่งแรกที่คุณต้องทำก็คือ การต้องตั้งสติเสียก่อน เสร็จแล้วก็ให้คุณคิดพิจารณาดูว่าสุนัขของคุณถูกงูพิษชนิดไหนกัดมาเอา

ยิ่งถ้าคุณเห็นรูปลักษณะของงูพิษที่กัดสุนัข และคุณสามารถบรรยายให้ทางสัตวแพทย์ทราบได้ว่า เป็นงูพิษชนิดไหนมีรูปร่างเป็นอย่างไร

รวมถึงถ้าคุณตั้งสติได้ทัน คุณอาจจะใช้มือถือของคุณถ่ายรูปงูชนิดน้้นให้ทางสัตวแพทย์ดู ถ้าทางสัตวแพทย์ทราบแล้วว่าเป็นงูพิษชนิดไหน การรักษาก็จะทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ต่อมาให้คุณลองตรวจสอบดูว่า สุนัขของคุณถูกงูพิษกัดตรงบริเวณไหนของร่างกาย เมื่อคุณพบบาดแผลที่ถูกงูพิษกัดแล้ว

ก็ให้คุณรีบใช้น้ำเปล่าล้างทำความสะอาดบาดแผลที่ถูกงูพิษกัดโดยทันที แล้วให้คุณรีบพาสุนัขของคุณเข้าพบสัตวแพทย์โดยทันทีเท่าที่คุณจะทำได้

การรักษาจากทางสัตวแพทย์

ทางสัตวแพทย์จะหาวิธีการทดสอบต่างๆ ที่สามารถช่วยระบุได้ว่าสุนัขถูกงูพิษชนิดนั้นกัดเอา และเมื่อทางสัตวแพทย์ทราบแล้วว่าสุนัขถูกงูพิษชนิดไหนกัดเอา ก็จะทำการใช้เซรุ่มสำหรับแก้พิษชนิดนั้นๆ ให้แก่สุนัข

ในยุคปัจจุบันทาง สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ได้มีการผลิตเซรุ่มสำหรับแก้พิษจากงูพิษสายพันธุ์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็น

  • งูเห่า
  • งูจงอาง
  • งูสามเหลี่ยม
  • งูทับสมิงคลา
  • งูเขียวหางไหม้
  • งูแมวเซา
  • งูกะปะ

ซึ่งถ้าคุณกับทางสัตวแพทย์สามารถระบุได้ว่า สุนัขถูกงูพิษชนิดไหนกัดเอา  ก็จะสามารถช่วยชีวิตของสุนัขได้ง่ายมากยิ่งขึ้น