บทนำ
บทความนี้จะมาแนะนำถึง 8 เรื่องที่คุณควรรู้ก่อนพาสุนัขเดินทางไกลด้วยรถยนต์ส่วนตัว ว่ามีสิ่งไหนที่คุณควรทำ เพื่อให้การเดินทางไกลของสุนัขผ่านไปได้อย่างราบรื่น
สำหรับคุณผู้อ่านคนไหนที่กำลังวางแผนพาสุนัขของคุณไปท่องเที่ยวตามสถานที่ไกลๆ ด้วยรถยนต์ส่วนตัว คุณก็สามารถใช้บทความนี้เป็นไกด์นำทางได้ว่า มีสิ่งไหนที่คุณควรรู้ มีสิ่งไหนที่คุณควรระวังเอาไว้บ้าง
เอาละเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ว่าสิ่งเหล่านั้นมีอะไรกันบ้าง
8 เรื่องที่คุณควรรู้ก่อนพาสุนัขเดินทางไกลด้วยรถยนต์ส่วนตัว
1. พาสุนัขไปตรวจสุขภาพ
ก่อนที่คุณจะพาสุนัขของคุณไปท่องเที่ยวทะเล หรือต้องเดินทางไปจังหวัดที่ห่างไกลที่พักอาศัยของคุณ คุณจำเป็นต้องพาสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพกับทางสัตวแพทย์ก่อนว่า สุนัขของคุณกำลังป่วยเป็นโรคอะไรอยู่หรือเปล่า
สุนัขของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรงพร้อมที่จะเดินทางไกลได้แล้วหรือยัง มันคงจะไม่ดีถ้าสุนัขของคุณเกิดป่วยในระหว่างเดินทางไกล จนคุณต้องเสียเวลาพาสุนัขไปหาหมอ
รวมถึงการที่คุณพาสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพ คุณยังสามารถขอยาแก้อาการเมารถให้กับสุนัขกับทางสัตวแพทย์ เพื่อช่วยลดอาการเมารถของสุนัขในระหว่างที่เดินทางไกลได้อีกด้วย
2. ฝึกสุนัขให้คุ้นเคยกับการเดินทางไกล
ในช่วงเวลา 2 – 3 เดือนก่อนที่คุณจะเดินทางไกล คุณควรฝึกสุนัขของคุณให้คุ้นเคยกับการเดินทางไกลก่อน โดยให้คุณเริ่มจากการอุ้มสุนัขมาอยู่บนรถที่คุณจะใช้เดินทางไกล
และลองให้สุนัขของคุณได้เดินสำรวจทำความรู้จักกับพื้นที่ต่างๆ ภายในรถยนต์ของคุณดู โดยให้คุณทำแบบนี้วันละประมาณ 10 – 15 นาที เป็นเวลาประมาณ 2 – 3 สัปดาห์
เสร็จแล้วเมื่อคุณสู่สัปดาห์ที่ 4 ให้คุณลองอุ้มสุนัขของคุณไว้ยังเบาะหลังรถ แล้วให้คุณลองขับรถวนรอบบริเวณหมู่บ้านของคุณดู หรือคุณอาจจะขับรถพาสุนัขชมวิวในระยะทางสั้นๆ แล้วคุณก็ค่อยขับกลับบ้าน ให้คุณทำแบบนี้ไปประมาณ 2 สัปดาห์
แล้วถ้าสุนัขของคุณสามารถทนอยู่บนรถได้โดยไม่มีอาการผิดปกติอะไร ก็ให้คุณลองเพิ่มระยะการเดินทางเข้าไปในละนิด ให้คุณทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วสุนัขของคุณก็จะรู้สึกคุ้นเคยกับการเดินทางไกลด้วยรถยนต์ได้
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
เพื่อให้สุนัขของคุณรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่บนรถของคุณ คุณควรเอาข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่สุนัขใช้อยู่เป็นประจำมาไว้บนรถของคุณ เพื่อให้มีกลิ่นตัวของสุนัขลอยอยู่บนรถ
หรือคุณอาจจะหาผ้าขนหนูที่สะอาดมาเช็คตัวของสุนัขให้มีกลิ่นตัว แล้วเอาผ้าขนหนูผืนนั้นเช็คไปยังเบาะหลังรถให้ทั่ว เพื่อให้กลิ่นตัวของสุนัขติดอยู่บนรถ (สำหรับกรณีที่คุณไม่คิดมากเรื่องมีกลิ่นสุนัขเกาะติดอยู่ภายในรถของคุณ)
การทำแบบนี้จะช่วยให้สุนัขรู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัยเมื่ออยู่บนรถของคุณ เพราะมีกลิ่นตัวของพวกมันติดอยู่
3. ให้สุนัขนั่งที่เบาะหลังของรถยนต์
คุณควรให้สุนัขนั่งอยู่บริเวณเบาะหลังรถของคุณ ซึ่งจะเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุดในการเดินทางไกลแล้ว เพราะถ้าคุณให้สุนัขนั่งอยู่บริเวณเบาะด้านหน้า หรือนั่งในจุดที่ใกล้กับคนขับ สุนัขอาจจะรบกวนคุณในระหว่างที่คุณกำลังขับรถอยู่ได้
แล้วถ้าเป็นไปได้คุณควรเปิดหน้าต่างตรงที่สุนัขนั่งอยู่ลงเล็กน้อย เพื่อให้สุนัขได้รับอากาศจากด้านนอกบ้าง รวมถึงคุณควรหาซื้อสายรัดนิรภัยสำหรับสุนัขมารัดเบาะหลังรถ
เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขได้รับอุบัติเหตุต่างๆ ในขณะที่กำลังเดินทางไกลอยู่อย่างเช่น คุณเกิดเบรกรถอย่างกะทันหันจนสุนัขของคุณเกิดล้มกลิ้งลงมานอนกับพื้นรถ สายรัดจะช่วยป้องกันในส่วนนี้ได้
4. ใส่ข้อมูลช่องทางติดต่อลงไปบนปลอกคอของสุนัข
ก่อนที่จะเดินทางไกลคุณควรหาซื้อปลอกคอของสุนัขที่สามารถเขียนข้อมูลของคุณลงไปบนปลอกคอได้ โดยข้อมูลที่คุณควรเขียนไว้บนปลอกคอก็จะมี
ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อของคุณ Line id หรือ Facebook ของคุณเป็นต้น เผื่อสุนัขของคุณเกิดพลัดหลงกับคุณในระหว่างที่กำลังท่องเที่ยวอยู่ ถ้ามีใครเจอสุนัขของคุณเค้าจะได้ติดต่อหาคุณได้ยิ่งง่ายขึ้น
5. เตรียมเสื้อผ้าถุงเท้าให้กับสุนัข
คุณควรเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้ในกรณีที่คุณเดินทางไปยังจังหวัดที่มีอากาศหนาวอย่างเช่น
- เชียงใหม่
- เชียงราย
- ตาก
- แม่ฮ่องสอน
จังหวัดพวกนี้จะมีอากาศที่เย็นกว่าจังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทย และยิ่งถ้าคุณเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เล็กขนสั้นที่มีนิสัยขี้หนาวอย่างเช่น สุนัขชิวาวา
คุณยิ่งต้องเตรียมเสื้อผ้ากับถุงเท้าของสุนัขไปเลย เผื่อเมื่อคุณเดินทางถึงจุดหมายปลายทางแล้ว คุณพบว่าสถานที่เหล่านั้นมีอากาศที่หนาวจัดมาก คุณจะได้สวมเสื้อผ้ากับถุงเท้าให้กับสุนัขเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายของพวกมัน
6. อาหารและน้ำดื่ม
เป็นสิ่งที่คุณต้องเตรียมไว้ในระหว่างเดินทางไกลซึ่งนั้นก็คือ อาหารและน้ำดื่มของสุนัข โดยให้คุณหากระติกน้ำเปล่าที่มีที่เปิดฝาอันใหญ่ๆ
เพื่อคุณจะได้เปิดฝากระติกออกมาแล้วเทน้ำลงบนฝาของกระติก แล้วให้สุนัขของคุณทานน้ำจากฝาของกระติกได้เลย ซึ่งวิธีนี้จะสะดวกกว่าที่คุณใช้กระติกน้ำแบบอื่น
สำหรับอาหารที่คุณเตรียมไว้ระหว่างเดินทางไกลควรจะเป็นอาหารเม็ดสำหรับสุนัข เพราะอาหารเม็ดจะทานได้ง่ายกว่าอาหารเปียกเป็นอย่างมาก
คุณไม่ควรให้สุนัขของคุณทานอาหารเปียกในระหว่างที่อยู่บนรถยนต์ เพราะเศษอาหารเปียกอาจจะกระเด็นไปเลอะตามเบาะหลังรถยนต์ของคุณ จนคุณต้องเสียเวลามาทำความสะอาดอีกครั้ง
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
คุณต้องให้สุนัขของคุณทานอาหารและน้ำดื่มก่อนที่จะเดินทางไกลเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเป็นต้นไปตัวอย่างเช่น ถ้าคุณจะออกเดินทางตอน 10.00 โมงเข้า
คุณควรให้สุนัขของคุณทานอาหารตั้งแต่ตอน 7.00 – 8.00 โมงเช้าเลย การทำแบบนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้สุนัขเกิดอาการเมารถ ในอ้วกบนรถในขณะที่เดินทางไกลได้
7. เตรียมของเล่นของสุนัขไปด้วย
ของเล่นจะเป็นตัวเบี่ยงเบนความสนใจ ไม่ให้สุนัขจดจ่อว่าพวกมันกำลังอยู่บนรถได้ ซึ่งมันจะช่วยลดอาการเมารถของสุนัขลงได้ในทางอ้อม
โดยคุณอาจจะเอาตุ๊กตาที่สุนัขชอบกัดอยู่เป็นประจำ มาให้สุนัขได้กัดเล่นในระหว่างเดินทางหรืออาจจะเป็นผ้าห่มที่สุนัขใช้ห่มนอนอยู่เป็นประจำ
ให้คุณเตรียมของเล่นเหล่านี้ไปประมาณ 3 – 5 ชิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณรู้สึกเบื่อในระหว่างที่กำลังเดินทางไกลอยู่
8. อยู่พักรถบ้าง
คุณควรหยุดพักรถของคุณบ้างเป็นเวลาประมาณ 10 – 15 นาที ในทุกๆ 2 ชั่วโมงของการเดินทางไกล โดยให้คุณหยุดพักรถตามสถานที่ต่างๆ อย่างเช่น จุดพักรถ หรือตามปั๊มน้ำมัน
เพื่อให้สุนัขของคุณได้ลงมาเดินเล่น กับได้สูดอากาศจากภายนอกตัวรถบ้าง การทำแบบนี้จะช่วยให้สุนัขรู้สึกผ่อนคลาย คลายเครียดจากการเดินทางไกลได้
แล้วถ้าจะให้ดีคุณควรพูดให้กำลังใจกับสุนัขของคุณด้วยการ ลูบหัว ลูบตัว กอดสุนัข พูดชมเชยสุนัขของคุณด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
หรือคุณอาจจะใช้สุนัขของคุณทานขนมสุดโปรดของพวกมันก็ได้เหมือนกัน การทำแบบนี้จะช่วยให้สุนัขมีกำลังใจในการเดินทางไกลมากยิ่งขึ้น