บทนำ
บทความนี้จะมาแนะนำถึง 7 วิธีดูแลสุนัขในระหว่างที่กำลังพักฟื้นตัวอยู่ ซึ่งโดยหลักๆ แล้วก็จะมีในเรื่องของอาหารการกิน การจัดสถานที่ให้สุนัขได้รับการพักผ่อน
การให้สุนัขทานยาที่ทางสัตวแพทย์ให้มา รวมถึงเรื่องต่างๆ ที่คุณต้องใส่ใจเพื่อให้สุนัขของคุณฟื้นตัวได้เร็วมากยิ่งขึ้น ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนกำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ
7 วิธีดูแลสุนัขในระหว่างที่กำลังพักฟื้นตัวอยู่
1. ให้สุนัขทานแต่อาหารที่มีประโยชน์
สุนัขก็เหมือนกับมนุษย์ตรงที่เมื่อสุนัขเกิดเป็นไข้เจ็บป่วยหรือได้รับอุบัติเหตุขึ้นมา ร่างกายของสุนัขจำเป็นต้องได้รับการพักผ่อน รวมถึงร่างกายของสุนัขยังต้องการสารอาหารประเภทต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของสุนัข
เพื่อจะได้เอามาฟื้นฟูร่างกายของตัวเอง ดังนั้นนอกจากการให้สุนัขของคุณได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้ว คุณต้องให้สุนัขของคุณทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ เป็นอาหารที่ให้สารอาหารอย่างครบถ้วนสามารถย่อยและดูดซึมได้ง่าย อาหารเหล่านี้จะช่วยให้สุนัขของคุณฟื้นตัวได้เร็วมากยิ่งขึ้น
สำหรับอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของสุนัขในขณะที่กำลังพักฟื้นตัวอยู่นั้นก็จะมี
- ไข่ต้ม
- แครอท
- ผักกาดขาว
- ฟักทองและมันหวาน
- อาหารสุนัขสำหรับสุนัขที่กำลังพักฟื้นร่างกายอยู่
- เนื้อไก่ เนื้อปลาแบบต้มสุกที่แกะกระดูกออกจนหมดแล้ว
อาหารเหล่านี้จะช่วยให้สุนัขของคุณฟื้นตัวได้เร็วมากยิ่งขึ้น
2. คอยสังเกตอาการต่างๆ ของสุนัขอย่างใกล้ชิด
เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณต้องใส่ใจในขณะที่สุนัขของคุณกำลังพักฟื้นร่างกายอยู่ โดยให้คุณคอยสังเกตอาการต่างๆ ของสุนัขอย่างใกล้ชิดว่า
ในกรณีที่สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคต่างๆ
- สุนัขของคุณมีอาการเบื่ออาหารหรือเปล่า
- น้ำหนักตัวของสุนัขเป็นอย่างไรบ้างค่อยๆ ลดลง หรือเพิ่มขึ้นจากปกติ
- สุนัขของคุณมีอาการอยากทานน้ำหรือกระหายน้ำบ่อยหรือไม่
- สุนัขมีอาการอ่อนเพลีย อ่อนแรง เซื่อมซึ่มและไม่ร่าเริงอยู่หรือเปล่า
- สุนัขของคุณมีอาการหายใจถี่หรือหายใจเร็ว และหายใจแบบมีเสียงดังอยู่หรือเปล่า
ในกรณีที่สุนัขของคุณได้รับบาดแผล
- บาดแผลของสุนัขมีอาการอักเสบ และมีอาการบวมโตหรือเปล่า
- มีเลือดหรือของเหลวไหลออกมาจากบาดแผลของสุนัขหรือไม่
ถ้าสุนัขของคุณมีอาการต่างๆ ที่กล่าวไปข้างต้น ในระหว่างที่สุนัขของคุณกำลังพักฟื้นตัวอยู่ ให้คุณรีบพาสุนัขของคุณไปหาสัตวแพทย์โดยทันที เพราะอาจจะยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทางสัตวแพทย์ยังตรวจไม่พบเจออยู่ก็เป็นได้
3. ให้สุนัขของคุณทานอาหารที่ทางสัตวแพทย์แนะนำ
นอกจากอาหารที่ทางบทความได้แนะนำในข้อที่ 1 ไปแล้ว อาหารที่คุณควรให้สุนัขของคุณทานก็คือ อาหารที่ทางสัตวแพทย์ได้แนะนำหลังจากที่ทำการรักษาจนอาการต่างๆ ของสุนัขเริ่มดีขึ้นมาแล้ว
โดยทางสัตวแพทย์จะจัดเมนูอาหารให้เหมาะสมกับโรคที่สุนัขกำลังป่วยอยู่ ซึ่งเมนูอาหารเหล่านี้จะเป็นเมนูอาหารที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง ย่อยและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย
คุณสามารถให้สุนัขของคุณทานแต่อาหารประเภทนี้เดียวอย่างเดียว หรืออาจจะให้สุนัขของคุณทานอาหารที่ทางสัตวแพทย์แนะนำ ควบคู่กับอาหารที่ทางบทความแนะนำในข้อที่ 1 ก็ได้เหมือนกัน
แต่ในช่วงแรกๆ ของการพักฟื้นตัว สุนัขยังมีอาการป่วยต่างๆ อยู่ จึงทำให้ในช่วงแรกๆ สุนัขจะยังไม่สามารถทานอาหารได้มากนัก คุณจึงควรแบ่งอาหารของสุนัขเป็นหลายๆ มื้ออย่างเช่น
จากปกติที่สุนัขของคุณทานอาหาร 2 มื้อต่อวัน ก็ให้คุณเพิ่มมื้ออาหารของสุนัขเป็น 4 มื้อได้แก่ มื้อเช้า มื้อกลางวัน มื้อเย็นและมื้อดึก โดยให้คุณลดปริมาณของอาหารในแต่ละมื้อลงไปประมาณ 30% จากมื้ออาหารปกติของสุนัข
4. ให้สุนัขทานแต่ยาที่ทางสัตวแพทย์จัดมาให้เท่านั้น
คุณต้องให้สุนัขของคุณทานแต่ยาที่ทางสัตวแพทย์จัดมาให้เท่านั้น ห้ามคุณไปซื้อยาจากข้างนอกมาให้สุนัขของคุณทานเองโดยเด็ดขาด
เพราะสุนัขไม่สามารถทานยาของมนุษย์ได้เลย ขอให้คุณจำไว้ว่าสุนัขสามารถทานได้แต่ยาสำหรับสุนัขแต่เพียงเท่านั้น อย่าให้สุนัขของคุณทานยาชนิดอื่นๆ ที่ทางสัตวแพทย์ไม่ได้ให้มาโดยเด็ดขาด
มีเจ้าของสุนัขหลายคนเลยที่เข้าใจผิดว่ายาของมนุษย์สามารถใช้กับสุนัขได้ จึงทำให้มีสุนัขหลายตัวเลยที่เสียชีวิตจากการทานยาของมนุษย์
เพราะเจ้าของสุนัขคิดว่ายาตัวนี้เค้าทานได้ สุนัขของเค้าก็น่าจะทานได้เหมือนกัน ดังนั้นขอให้คุณระวังเรื่องเหล่านี้เอาไว้ด้วย
5. ทำความสะอาดจานชามให้อาหารและน้ำอยู่เสมอ
ในช่วงที่สุนัขกำลังพักฟื้นร่างกายอยู่ ร่างกายของสุนัขจะอ่อนแอเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้สุนัขมักจะได้รับเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่ายกว่าปกติซึ่งจานชามให้อาหารและน้ำของสุนัข ก็เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคต่างๆ ได้ดีอีกแหล่งหนึ่ง
ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ คุณควรทำความสะอาดภาชนะให้อาหารและน้ำของสุนัขอยู่เป็นประจำ เพื่อจะได้เป็นการล้างเชื้อโรคต่างๆ ที่เกาะติดอยู่บนจานชามให้อาหารและน้ำของสุนัข
6. จัดหาห้องให้สุนัขได้รับการพักผ่อนที่ดี
เพื่อให้ร่างกายของสุนัขฟื้นตัวได้เร็วมากยิ่งขึ้น คุณควรจัดเตรียมสถานที่ให้สุนัขได้รับการพักผ่อน โดยสถานที่ดังกล่าวต้องเป็นสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกตลอดทั้งวัน ไม่ร้อนจัดหรือเย็นจัดจนเกินไป
รวมถึงในสถานที่เหล่านั้นต้องเป็นสถานที่ที่มีบรรยายกาศเงียบสงบ ปราศจากไม่มีเสียงรบกวนต่างๆ ทั้งจากภายในบ้านและก็จากนอกบ้าน
สถานที่เหล่านี้จะช่วยให้สุนัขของคุณนอนหลับพักผ่อนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และเมื่อสุนัขของคุณได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้วมันจะส่งผลทำให้ร่างกายของสุนัขฟื้นตัวได้เร็วมากยิ่งขึ้น
7. ล้างแผลให้สุนัขของคุณอยู่เป็นประจำ
ในกรณีที่สุนัขของคุณได้รับบาดแผล สิ่งที่คุณต้องทำอยู่เป็นประจำก็คือ ให้คุณล้างแผลของสุนัขอยู่เป็นประจำ และหลังจากที่ล้างแผลเสร็จคุณต้องพันแผลให้สุนัขของคุณด้วย
เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณเลียหรือเกาแผลจนทำให้บาดแผลอักเสบเพิ่มขึ้น หรือคุณอาจจะไปซื้อปลอกคอกันเลียมาใส่ให้สุนัขของคุณก็ได้เหมือนกัน ปลอกคอกันเลียจะทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณล้มไปเลียบาดแผลได้