บทนำ
บทความนี้เขียนขึ้นมา เพื่อให้คุณผู้อ่านที่กำลังจะเริ่มเลี้ยงลูกสุนัขสักตัวหนึ่ง ว่ามีสิ่งของสิ่งไหนที่คุณต้องเตรียมเอาไว้บ้าง โดยหลักๆ แล้วสิ่งของที่จำเป็นสำหรับลูกสุนัขนั้นจะมีอยู่ด้วยกันประมาณ 7 อย่างด้วยกัน
เมื่อคุณเตรียมสิ่งของเหล่านี้ไว้ครบถ้วนจนหมดแล้วก็จะทำให้สุนัขของคุณใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของคุณได้ง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น เอาละเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ว่าสิ่งของที่ว่านั้นจะมีอะไรกันบ้าง
7 สิ่งของที่จำเป็นของลูกสุนัข
1. ขนมสำหรับลูกสุนัข
ถือว่าเป็นสิ่งของที่ขาดไม่ได้ในลูกสุนัขเลย ขนาดมนุษย์อย่างพวกเรายังชอบกินพวกขนม หรือของหวานเป็นชีวิตและจิตใจเลย
ซึ่งลูกสุนัขก็มีนิสัยแบบนี้เหมือนกันกับคุณ สำหรับลูกสุนัขขนมถือว่าเป็นของขวัญสุดพิเศษหลังจากมื้ออาหารจานหลักของพวกมันเลย
การให้ลูกสุนัขของคุณทานขนมอยู่เป็นประจำ นอกจากจะทำให้ลูกสุนัขมีความสุขกับรสชาติแสนอร่อยของขนมแล้ว มันยังทำให้คุณกับลูกสุนัขสนิทกันได้เร็วมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
และนอกจากนี้คุณยังสามารถฝึกคำสั่งต่างๆ ก่อนที่คุณจะให้ขนมกับลูกสุนัขของคุณได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นคำสั่ง นั่งลง ,หยุดคอย ,รอ ,ทานขนมได้ คุณควรฝึกให้ลูกสุนัขของคุณจดจำคำสั่งเหล่านี้ ก่อนที่จะให้ขนมกับพวกมัน
ข้อควรระวังในการให้ขนมของลูกสุนัข
ขนมของลูกสุนัขจะให้พลังงานที่สูงเป็นอย่างมาก ถ้าคุณให้ลูกสุนัขของคุณทานขนมอยู่เป็นประจำ ก็อาจจะทำให้ลูกสุนัขของคุณป่วยเป็นโรคอ้วนขึ้นมาได้ ดังนั้นคุณควรจะให้ลูกสุนัขของคุณทานขนมแบบเป็นครั้งคราว หรือสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้งจะเป็นการดีกว่า
2. ของเล่นสำหรับลูกสุนัข
ลูกหมากับของเล่นสุนัขนั้นถือว่าเป็นของคู่กันเลย ในช่วงวัยเด็กของสุนัข พวกมันมักจะมีนิสัยชอบเคี้ยวสิ่งของต่างๆ ที่อยู่รอบๆ ตัวของพวกมัน
ไม่ว่าจะเป็นถุงเท้าของคุณ ,กระเป๋าใบโปรดของคุณ รวมถึงเสื้อผ้าต่างๆ ที่คุณชอบวางกองไว้กับพื้น ลูกสุนัขมักจะมีนิสัยเข้าไปดมๆ แล้วกัดสิ่งของเหล่านี้เล่นอยู่เป็นประจำ
ซึ่งการทำแบบนี้ในลูกสุนัขถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเพราะลูกสุนัขจะได้เรียนรู้ได้ว่า สิ่งของเหล่านั้นมีเนื้อสัมผัสเป็นยังไง เป็นกระบวนการเรียนรู้ของลูกสุนัข
แต่มันคงจะไม่ค่อยดีสำหรับคุณเท่าไหร่ เพราะมีสิ่งของบางอย่างเรารัก และหวงสิ่งของเหล่านั้นเป็นอย่างมาก คุณคงจะรู้สึกแย่มากถ้าคุณว่าลูกสุนัขของคุณทำลายสิ่งของเหล่านี้
ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวคุณควรหาซื้อพวกของเล่นมาให้ลูกสุนัขของคุณได้เล่น สำหรับวิธีเลือกของเล่นให้ลูกสุนัข คุณควรจะเลือกของเล่นที่มีขนาดชิ้นเล็กๆ พอดีกับปากของสุนัข และมีความอ่อนนุ่มมากกว่าปกติ
เพราะลูกสุนัขของคุณมักจะมีนิสัยที่ชอบงับของเล่นสุนัขอยู่เป็นประจำ การเลือกของเล่นที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มจะช่วยป้องกันไม่ให้ฟันของลูกสุนัขเกิดหักจากการเคี้ยวของเล่นเหล่านี้ได้
ส่วนที่เลือกของเล่นให้พอดีกับปากลูกสุนัขนั้นก็เพราะว่า จะเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้ลูกสุนัขเผลอกลืนของเล่นเหล่านั้นเข้าไปช่วยติดคอได้
รวมถึงให้คุณหลีกเลี่ยงไม่ซื้อของเล่นที่สามารถแตกหักได้ง่าย เพราะของเล่นที่แตกหักได้ง่ายนั้น มันจะมีความเสี่ยงทำให้ลูกสุนัขของคุณเผลอ กิน เศษของเล่นเหล่านั้น เข้าไปจนติดที่ลำคอของลูกสุนัขได้
3. อาหารสำหรับลูกสุนัข
ในช่วงวัยเด็กร่างกายของลูกสุนัขจะต้องการสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของลูกสุนัขเป็นอย่างมาก เพราะสารอาหารเหล่านี้จะมาช่วยให้ร่างกายของลูกสุนัขเจริญเติบโตสมวัย
เพื่อให้ลูกสุนัขของคุณได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน คุณควรจะเลือกสูตรอาหารสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะ โดยให้คุณเลือกอาหารลูกสุนัขสูตรบำรุงกระดูกและข้อต่อ
เพราะด้วยขนาดร่างกายที่เปลื่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ถ้ากระดูกและข้อต่อของลูกสุนัขไม่ได้เจริญเติบโตแข็งแรงตาม ก็อาจจะทำให้ลูกสุนัขของคุณมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก และข้อต่อที่ต้องรับน้ำหนักตัวมากจนเกินไปขึ้นมาได้
ลูกสุนัขอายุ 1 – 6 เดือนควรทานอาหารประเภทไหน
ในช่วงที่ลูกสุนัขยังมีอายุไม่ครบถึง 6 เดือน คุณควรให้ลูกสุนัขของคุณทานอาหารเปียก ควบคู่ไปกับนมแพะ โดยให้คุณนำอาหารเปียกไปปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นก่อน แล้วคุณถึงให้ลูกสุนัขของคุณทานอาหารเหล่านั้นได้
เพราะในช่วงนี้ฟันของลูกสุนัขยังไม่แข็งแรงสมบูรณ์ดีพอที่จะทานอาหารเม็ดแข็งๆ ได้ ไว้รอให้ลูกสุนัขของคุณมีได้อายุประมาณ 6 เดือนขึ้นไป หรือฟันแท้เริ่มขึ้นจนหมดแล้ว ลูกสุนัขของคุณถึงจะเริ่มทานอาหารแข็งๆ อย่างอาหารเม็ดได้
4. ที่นอนสำหรับน้องหมา
สุนัขก็เหมือนกับมนุษย์อย่างพวกเรา ที่พวกมันก็ต้องการที่นอนนุ่มเพื่อใช้ในเวลาพักผ่อนเหมือนกัน ดังนั้นคุณควรจะไปหาที่นอนมาให้ลูกสุนัขของคุณได้พักผ่อน
ถ้าคุณอยากประหยัดหน่อย คุณก็หาพวกเบาะที่คุณไม่ใช้แล้วมาให้ลูกสุนัขของคุณนอน หรือคุณอาจจะเอาพวกผ้าขนหนูนุ่มมากกองรวมๆ แล้วให้ลูกสุนัขของคุณนอนก็ได้เหมือนกัน หรือคุณอาจจะลงทุนไปซื้อที่นอนสำหรับสุนัขมาให้ลูกสุนัขของคุณนอนก็ได้เหมือนกัน
เมื่อคุณได้ที่นอนสำหรับสุนัขแล้ว สิ่งต่อมาที่คุณต้องทำก็คือ ให้คุณหาห้อง หรือพื้นที่มุมสงบๆ ในบ้านของคุณเป็นจุดวางที่นอนของสุนัข โดยพื้นที่ที่ลูกสุนัขพักอาศัยอยู่นั้น ต้องเป็นมุมที่มีบรรยายกาศที่เงียบสงบ ปราศจากสิ่งรบกวนต่างๆ ทั้งจากภายในบ้าน และนอกบ้าน
ห้อง หรือพื้นที่สงบๆ จะช่วยทำให้ลูกสุนัขของคุณได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ซึ่งมันจะช่วยทำให้ร่างกายของลูกสุนัขเจริญเติบโตสมวัยได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
5. อุปกรณ์สำหรับทำความสะอาด
เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้นั้นก็คือ อุปกรณ์สำหรับทำความสะอาดบ้านของคุณ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์สำหรับเก็บอึของสุนัข ห้องน้ำของสุนัข และแผ่นรองฉี่ของสุนัข รวมถึงอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านชนิดอื่นๆ อย่างเช่นทั่ว ไม้กวาดบ้าน ,ไม้ถูพื้น ,เครื่องดูดฝุ่น
ซึ่งคุณต้องได้ใช้สิ่งของเหล่านี้แน่ๆ เพราะลูกสุนัขแทบทุกตัว จะมีพรสวรรค์ในการทำให้บ้านรกได้เก่งเป็นอย่างมาก ดังนั้นคุณควรเตรียมอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อย เผื่อเกิดเหตุการณ์ลูกสุนัขเล่นซุกซนจนบ้านของคุณรกไปหมด คุณจะได้ทำความสะอาดบ้านได้โดยในทันที
6. อุปกรณ์สำหรับอาบน้ำกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการแปรงขนลูกสุนัขของคุณ
ข้อที่แล้วพูดถึงการทำความสะอาดพื้นที่ในบ้านไปแล้ว สำหรับข้อนี้จะมาพูดถึงเรื่องการทำความสะอาดบนตัวของน้องหมากันบ้าง
สำหรับน้องหมาในช่วงวัยเด็กนั้น พวกมันจะมีความซุกซนเป็นอย่างมาก จึงทำให้มีโอกาสที่ลูกสุนัขของคุณไปวิ่งซุกซนเล่นจนตัวเนื้อสกปรกกลับมา
ดังนั้นคุณควรเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดของสุนัขให้พร้อมอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็น กะละมังอาบน้ำ ,แชมพูสุนัข ,ไดร์สำหรับเป่าขน ,ผ้าขนหนูสำหรับเช็ดตัวน้องหมา เป็นต้น คุณจะได้อาบน้ำให้กับลูกสุนัขของคุณได้ทันที เมื่อพวกมันไปวิ่งเล่นจนมีเนื้อตัวสกปรกกลับมา
และอีกสิ่งหนึ่งที่คุณต้องจัดเตรียมไว้ก็คือ อุปกรณ์สำหรับแปรงขนของสุนัข โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสุนัขที่เป็นสายพันธุ์ขนยาว คุณจำเป็นต้องแปรงขนให้กับพวกมันเป็นประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้ขนของสุนัขพันกันจนกลายเป็นสังกะตังขึ้นมาได้
7. สายจูงและปลอกคอของน้องหมา
เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่คุณควรซื้อไว้เลยนั้นก็คือ สายจูง และปลอกคอของสุนัข เพื่อคุณจะได้พาลูกสุนัขของคุณออกไปวิ่งเล่นออกกำลังนอกบ้านได้อย่างสบายใจ
เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมทิศทางต่างๆ ของลูกสุนัขไปยังทิศทางที่คุณกำหนดไว้ มันจะช่วยลดอุบัติเหตุที่คุณไม่คาดฝันขึ้นมาได้อย่างเช่น ลูกสุนัขถูกรถชน หรือลูกสุนัขถูกสุนัขจรจัดที่พักอาศัยอยู่แถวนั้นกัดเข้า เป็นต้น
และอีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรทำก็คือ คุณควรเขียนชื่อ ที่อยู่ และช่องทางการติดต่อต่างๆ ของคุณลงไปบนปลอกคอของลูกสุนัข เผื่อในกรณีที่ลูกสุนัขของคุณ เกิดหนีออกจากบ้าน หรือพลัดหลงจากคุณในขณะที่คุณพาลูกสุนัขของคุณออกเดินเล่น เมื่อมีคนพบเจอลูกสุนัขของคุณพวกเค้าจะได้ติดต่อกลับมาหาคุณได้
แต่ก่อนที่คุณจะพาลูกสุนัขของคุณออกเดินเล่นนอกบ้านได้ คุณจำเป็นต้องพาลูกสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ ที่จำเป็นก่อน เพราะลูกสุนัขยังมีภูมิต้านทานที่ต่ำกว่าสุนัขที่โตจนเต็มวัยแล้วเป็นอย่างมาก จึงมีโอกาสสูงที่ลูกสุนัขของคุณจะป่วยเป็นโรคต่างๆ ได้ง่าย ถ้าไปสัมผัสกับเชื้อโรคต่างๆ ที่อยู่ภายนอกบ้าน
พาลูกสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำ
สิ่งแรกที่คุณควรทำเมื่อรับลูกสุนัขเข้ามาอยู่ในบ้านของคุณนั้นก็คือ การพาลูกสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพกับทางสัตวแพทย์
การตรวจสุขภาพจะช่วยให้คุณรู้ว่า สุขภาพของลูกสุนัขเป็นอย่างไรบ้าง ลูกสุนัขมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ดีอยู่หรือเปล่า ลูกสุนัขกำลังป่วยเป็นโรคบางอย่างอยู่หรือเปล่า
และเมื่อลูกสุนัขของคุณตรวจสุขภาพเสร็จแล้ว ทางสัตวแพทย์จะทำการจัดตารางฉีดวัคซีนให้กับลูกสุนัขของคุณ ว่าลูกสุนัขของคุณต้องฉีดวัคซีนประเภทไหน เวลาใดบ้าง หน้าที่ของคุณก็คือ การพาลูกสุนัขของคุณกลับเข้ามาฉีดวัคซีนตามที่ทางสัตวแพทย์ได้กำหนดไว้
