บทนำ
บทความนี้จะมาแนะนำถึง 7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นสุนัขยอดฮิตที่คนไทยเลี้ยงกัน บทความนี้จะช่วยให้คุณรู้จักกับสุนัขสายพันธุ์นี้มากยิ่งขึ้น
ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนอยากทำความรู้จักกับสุนัขสายพันธุ์นี้มากยิ่งขึ้น ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ
7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้
1.ไซบีเรียน ฮัสกี้ มีประวัติยาวนานมาเกือบ 3000 กว่าปีแล้ว
สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ ถูกค้นพบขึ้นครั้งแรกเมื่อ 3000 ปีที่ผ่านมา โดยชาวชุกชี (Chukchi) ได้พบสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ ตัวแรกที่แถบคาบสมุทรชุกชีทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของทางประเทศไซบีเรีย
ในยุคสมัยแรกๆ ชาวชุกชี มักจะนิยมใช้สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ สำหรับงานหนักๆ อย่างเช่น การลากเลื่อนหิมะ กับการคอยดูแลฝูงกวางเรนเดียร์เป็นต้น
2. ไซบีเรียน ฮัสกี้ มีสายเลือดของสุนัขหมาป่า
ถ้าคุณได้ลองศึกษาถึงต้นกำเนิดของสุนัขสายพันธุ์นี้ดูแล้ว คุณจะพบว่าสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ มีต้นกำเนิดมาจากหมาป่าที่อาศัยอยู่ตามแถบเขตป่าไซบีเรียตอนบน
และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้พวกมันมีลักษณะรูปร่างหน้าตาดูคล้ายๆ เหมือนกับหมาป่านั้นเอง
3. ไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นสุนัขที่ไม่เหมาะกับการเฝ้าบ้านเลย
อย่างที่คุณรู้กันว่าสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ นั้นเป็นมิตรกับทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ ตัวของพวกมันแม้กระทั่งกับคนแปลกหน้า
จึงทำให้สุนัขสายพันธุ์นี้ไม่เหมาะกับการเฝ้าบ้านเลย เพราะแทนที่พวกมันจะคอยเห่าหรือกัดโจรผู้ร้ายที่จะเข้ามาขโมยของในบ้านของคุณ มันกลับจะกลายเป็นสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ของคุณจะไปเล่นหยอกล้อกับโจรผู้ร้ายแทน
4. ไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นสุนัขที่มีพลังงานเหลือล้นเป็นอย่างมาก
จากที่กล่าวไปข้างต้นว่า ในสมัยก่อนสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ ถูกใช้งานหนักๆ ที่ต้องใช้พลังงานสูงอย่างเช่น การลากเลื่อนหิมะ หรือลากสิ่งของหนักๆ ไปส่งในระยะที่ไกลมาก จึงทำให้สุนัขสายพันธุ์นี้มีพละพลังที่มหาศาลเป็นอย่างมาก
และในปัจจุบันที่สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ ถูกเลี้ยงไว้ให้อยู่แต่ตามบ้าน ไม่จำเป็นต้องทำงานหนักเหมือนแต่ก่อน จึงทำให้พวกมันมีพลังงานสะสมอยู่ในร่างกายเป็นจำนวนมาก ซึ่งมันจะส่งทำให้สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ รู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ได้ระบายพลังงานเหล่านั้นออกจากร่างกาย (ความรู้สึกเหล่านี้คนที่ชอบออกกำลังกายส่วนใหญ่มักจะเป็นกันในวันที่คุณไม่ได้ออกกำลังกาย)
และเมื่อสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ รู้สึกหงุดหงิดมากๆ เข้า พวกมันก็จะหาทางระบายด้วยการวิ่งไปทำลายของข้าวในบ้านของคุณแทน ถ้าคุณไม่อยากให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นกับคุณในแต่ละวันคุณควรจับสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ของคุณออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องให้ได้วันละประมาณ 20 – 25 นาทีต่อวัน วิธีนี้จะช่วยเผาผลาญพลังงานที่สะสมในร่างกายของพวกมันได้
5. สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ ไม่ได้มีชื่อนี้มาตั้งแต่ต้น
ในยุคสมัยก่อนสุนัขสายพันธุ์นี้มีชื่อว่า อาร์กติก ฮัสกี้ (Arctic Huskie) แต่เมื่อเข้าสู่ปี ค.ศ. ที่ 1991 สุนัขสายพันธุ์นี้ก็เปลื่ยนชื่อมาเป็น ไซบีเรียน ฮัสกี้ จนถึงปัจจุบันนี้
6. สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ มีบทบาทในสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นอย่างมาก
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ หลายตัวมีหน้าที่คอยส่งข้อความให้กับทหารกลุ่มต่างๆ ที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก
อีกทั้งสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ ยังมีหน้าที่คอยส่งส่งเสบียงอาหาร กับอุปกรณ์ทางทหารต่างๆ ให้กับหน่วยทหารที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ด่านหน้าอีกด้วย
7. ไซบีเรียน ฮัสกี้ เคยเป็นฮีโร่ช่วยชีวิตของเด็กไว้หลายคนเลย
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1925 ที่เมือง (Nome) ในช่วงนั้นมีเด็กหลายคนในเมืองเลยที่กำลังป่วยเป็นโรคคอตีบ (diphtheria) ในยุคสมัยนั้นถ้าเด็กคนไหนป่วยเป็นโรคคอตีบ จะมีโอกาสเสียชีวิตได้สูงเป็นอย่างมาก
โดยในตอนนั้นมีเซรุ่มที่สามารถช่วยรักษาโรคนี้ให้กับเด็กๆ ได้ แต่ติดอยู่ตรงที่ว่า เซรุ่มรักษาโรคคอตีบนั้นอยู่ในห่างไกลเมือง Nome ถึง 800 กิโลเมตรเลย อีกทั้งสภาพอากาศที่ปกคลุมไปด้วยพายุหิมะ ก็ทำให้เครื่องบินไม่สามารถบินออกจากตัวเมืองได้เลย
ทางกลุ่มผู้ใหญ่ในเมือง Nome จึงรวมตัวกันเพื่อประชุมกันว่าจะเอายังไงต่อไปดี และก็มีคนกลุ่มหนึ่งอาสาว่า พวกเค้าจะจัดตั้งทีมอาสาสุนัขลากเลื่อนโดยใช้สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นตัวนำทางเพื่อทางเดินไปเอาเซรุ่มมาช่วยชีวิตของเด็กๆ เอง
ซึ่งภารกิจนี้เองก็ทำให้สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก และเหตุการณ์ดังกล่าวก็โด่งดังถึงขนาดวงการฮอลลีวูด เอาไปทำเป็นหนังเลย โดยคุณผู้อ่านสามารถดูเรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างเต็มๆ ในหนังเรื่อง Togo (2019) โทโก้ ได้เลยครับ