บทนำ
6 วิธีทำให้สุนัขจรจัดปรับตัวและเปิดใจให้กับคุณมากยิ่งขึ้น สำหรับคนที่พึ่งรับสุนัขจรจัดเข้ามาเลี้ยงไว้ที่บ้าน วิธีนี้จะช่วยให้สุนัขจรจัดเปิดใจให้กับคุณได้
ก่อนอื่นคุณต้องรู้ก่อนว่าสุนัขจรจัดมักจะมีนิสัยที่ดุร้ายกว่าสุนัขที่ถูกเลี้ยงอยู่ตามบ้าน เพราะชีวิตของพวกมันต้องดิ้นรนต่อสู้กันมาทั้งชีวิต จึงทำให้สุนัขจรจัดมักจะเปิดใจกับใครได้ยาก
ซึ่งเนื้อหาในบทความนี้จะช่วยให้สุนัขจรจัดที่คุณพึ่งรับเข้ามาเลี้ยงไว้ในบ้าน สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมต่างๆ ในบ้านของคุณได้
รวมถึงวิธีต่างๆ ยังช่วยให้สุนัขจรจัดมีนิสัยที่อ่อนโยนลง ลดความดุร้ายลง แถมยังทำให้สุนัขจรจัดเปิดใจให้กับคุณและเชื่อฟังคำสั่งต่างๆ ของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย
สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่กำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ
6 สิ่งที่ควรทำเมื่อพาสุนัขจรจัดเข้าบ้าน
1. ทำให้สุนัขจรจัดรู้สึกคุ้นเคยกับบ้านของคุณ
สิ่งแรกที่คุณควรทำเมื่อพาสุนัขจรจัดเข้าบ้านก็คือ ให้คุณฝึกให้สุนัขจรจัดรู้สึกคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมต่างๆ ในบ้านของคุณ โดยเริ่มแรกให้คุณหาพื้นที่ส่วนตัวให้สุนัขจรจัดของคุณอยู่ก่อน
โดยคุณอาจจะเลือกกั้นคอกให้สุนัขอยู่แต่ตรงพื้นที่ตรงนี้ หรืออาจจะหาห้องส่วนตัวให้สุนัขจรจัดของคุณอยู่เลยก็ได้เหมือนกัน และให้สุนัขจรจัดของคุณอยู่แต่ในพื้นที่ตรงนี้ห้ามออกไปไหนเลยเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน
การทำแบบนี้จะช่วยให้สุนัขจรจัดที่คุณพึ่งรับเข้าบ้าน ค่อยๆ ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ในบ้านของคุณได้ และเมื่อเวลาผ่านไป 1 เดือนแล้ว
ก็ให้คุณลองปล่อยให้สุนัขจรจัดได้เดินออกมาสำรวจพื้นที่ต่างๆ ในบ้านของคุณดู เป็นเวลาประมาณ 10 – 15 นาทีต่อวัน ให้คุณทำแบบนี้ไปประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ มันจะทำให้สุนัขจรจัดของคุณเริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมต่างๆ ในบ้านของคุณได้
2. พาสุนัขจรจัดไปฉีดวัคซีน
ข้อนี้ให้คุณทำควบคู่กับในข้อที่ 1 โดยเมื่อคุณจัดสถานที่ให้สุนัขจรจัดได้พักอาศัยอยู่แล้ว สิ่งต่อมาที่คุณต้องทำก็คือ ให้คุณพาสุนัขจรจัดที่คุณพึ่งรับเข้ามาเลี้ยงไว้ในบ้านไปตรวจสุขภาพกับทางสัตวแพทย์
เพื่อดูว่าในตอนนี้สุขภาพของสุนัขจรจัดเป็นอย่างไรบ้าง แข็งแรงสมบูรณ์ดี หรือกำลังป่วยเป็นโรคบางอย่างอยู่ โดยการตรวจสุขภาพนั้นทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจสอบต่อไปเลยว่า สุนัขจรจัดที่คุณพึ่งรับเลี้ยงได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคอะไรไปแล้วบ้าง
ถ้ายังทางสัตวแพทย์จะทำการฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ ให้กับสุนัขจรจัดของคุณเลยรวมถึงทางสัตวแพทย์จะทำการถ่ายพยาธิ กับกำจัดเห็บหมัดที่อยู่บนร่างกายของสุนัขจรจัดให้เรียบร้อยเลย
3. หลีกเลี่ยงอย่าให้เด็กเข้าใกล้สุนัขจรจัด
สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่มีลูก หรือมีเด็กตัวเล็กพักอาศัยอยู่ในบ้าน คุณต้องห้ามอย่าให้ลูก หรือเด็กตัวเล็กในบ้านเข้าใกล้สุนัขจรจัดที่คุณพึ่งรับเลี้ยงโดยเด็ดขาด
เพราะจะมีโอกาสูงเป็นอย่างมากที่สุนัขจรจัดอาจจะพุ่งเข้ากัดหรือทำร้ายลูกของคุณได้สาเหตุที่เป็นแบบนี้นั้นก็เพราะว่า สุนัขจรจัดใช้ชีวิตอยู่แต่นอกบ้าน พวกมันต้องหาอาหารกินเอง ต้องระวังศัตรู รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่จะเข้ามาทำร้ายมัน จึงทำให้สุนัขจรจัดจะมีนิสัยขี้หวาดระแวงและตื่นตกใจได้ง่าย
แล้วทีนี้ถ้าลูกของคุณเผลอไปเล่นกับสุนัขจรจัดอย่างรุนแรง จนสุนัขจรจัดตกใจกลัวพวกมันจะป้องกันตัวเอง ด้วยการพุ่งเข้ากัดลูกของคุณโดยทันที เพราะสุนัขจรจัดกลัวว่าเด็กจะเข้ามาทำร้ายมันหรือเปล่า
ถ้าคุณไม่อยากให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นกับลูกหรือเด็กตัวเล็กในบ้านของคุณ ในช่วงแรกที่สุนัขจรจัดยังไม่สามารถปรับตัวได้ ห้ามให้เด็กในบ้านของคุณไปเล่นกับสุนัขจรจัดโดยเด็ดขาด
4. ปรับนิสัยการกินของสุนัขจรจัด
จากที่ได้กล่าวไว้ในข้อที่ 3 ว่าทั้งชีวิตของสุนัขจรจัดต้องดิ้นรนเอาตัวรอดอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ในช่วงแรกๆ ที่สุนัขจรจัดพึ่งเข้ามาพักอาศัยอยู่ในบ้านของคุณ พวกมันจะมีนิสัยชอบคุ้ยเขี่ยถังขยะในบ้านของคุณเพื่อหาเศษอาหารที่อยู่ในกองขยะอยู่เป็นประจำ
รวมถึงสุนัขจรจัดยังมีนิสัยชอบอาหารที่ตกอยู่ตามพื้น กับชอบกินน้ำที่ตกอยู่ตามพื้นอีกด้วย นิสัยนี้เป็นนิสัยที่ติดตัวมากับสุนัขจรจัดแทบทุกตัวเลย
สอนให้สุนัขจรจัดกินอาหารบนจานชามให้อาหาร
ดังนั้นจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณต้องทำแบบพาสุนัขจรจัดเข้ามาพักอาศัยอยู่ในบ้านของคุณก็คือ คุณต้องสอนให้สุนัขจรจัดทานอาหารกับดื่มน้ำบนจานชามให้น้ำและอาหารที่คุณเตรียมไว้
กับสอนให้สุนัขจรจัดรู้ว่าการเขี่ยถังขยะเพื่อหาเศษอาหารกิน กับการกินน้ำสกปรกนั้นเป็นสิ่งไม่ดีห้ามพวกมันทำโดยเด็ดขาด
สอนสุนัขจรจัดทานอาหารเม็ด
สุนัขจรจัดมักจะรู้สึกคุ้นเคยกับการทานเศษอาหารจากถังขยะ พวกมันจึงค่อนข้างติดรสชาติจากอาหารของมนุษย์เป็นอย่างมาก
จึงทำให้ในช่วงแรกๆ ที่คุณพึ่งรับสุนัขจรจัดเข้าบ้าน คุณควรให้สุนัขจรจัดทานอาหารปรุงสุกไปก่อนอย่างเช่น
- ข้าวเปล่าผสมกับเนื้อไก่ที่ต้มจนสุกแล้ว (คุณต้องหันเนื้อไก่เป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำกับแกะกระดูกที่อยู่ในเนื้อไก่ออกให้หมด)
- หรือถ้าคุณไม่อยากนั่งทำอาหารเอง คุณก็สามารถซื้ออาหารเปียกมาให้สุนัขจรจัดทานก็ได้เหมือนกัน
ให้คุณทำแบบนี้ไปประมาณ 10 – 15 วัน แล้วคุณก็ค่อยฝึกให้สุนัขจรจัดทานอาหารเม็ด โดยให้คุณลดปริมาณอาหารปรุงสุกที่คุณให้สุนัขทานในแต่ละมื้อลงประมาณ 10% แล้วก็ให้คุณค่อยๆ เพิ่มปริมาณอาหารเม็ดเข้าไปแทนที่ตัวอย่างเช่น
- ในสัปดาห์แรกให้คุณใส่อาหารปรุงสุกลงไปในจานข้าวให้อาหารสุนัขประมาณ 90% แล้วให้คุณใส่อาหารเม็ดลงไปในจานข้าวให้อาหารสุนัขไปประมาณ 10%
- และเมื่อเข้าสู่สัปดาห์สอง ให้คุณลดปริมาณอาหารปรุงสุกในจานข้าวของสุนัขลงเหลือ 80% โดยให้คุณเพิ่มปริมาณอาหารเม็ดลงไปในจานข้าวของสุนัขเป็น 20%
- ให้คุณทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนปริมาณอาหารเม็ดเต็มจานข้าวของสุนัข การทำแบบนี้จะช่วยให้สุนัขจรจัดสามารถปรับตัวทานอาหารเม็ดได้ ซึ่งมันจะช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารการกินของสุนัขไปได้เยอะเลย
5. ทำให้สุนัขจรจัดเปิดใจกับคุณ
ไม่ว่าจะเป็นสุนัขตัวไหนก็ต้องการได้รับความรักความเอาใจจากเจ้าของของพวกมันอยู่เป็นประจำสุนัขจรจัดก็เหมือนกัน แต่จะต่างกันตรงที่สุนัขจรจัดจะเติบโตขึ้นมาบนโลกอันโหดร้าย เป็นโลกที่พวกมันต้องคอยต่อสู้แย่งชิงสิ่งต่างๆ มาทั้งชีวิต
ซึ่งทำให้สุนัขจรจัดแทบจะไม่ไว้ใจใครเลย เพราะพวกมันไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของพวกมันนั้นจะเป็นศัตรูหรือเป็นมิตรต่อพวกมันกันแน่น จึงทำให้ในช่วงแรกๆ สุนัขจัดจรจะเปิดใจกับใครได้ยาก
วิธีทำให้สุนัขจรจัดเปิดใจกับคุณ
ตั้งชื่อให้กับสุนัขจรจัด
คุณสามารถทำให้สุนัขจรจัดเปิดใจกับคุณได้ด้วยการตั้งชื่อให้กับพวกมัน โดยชื่อที่คุณตั้งให้ควรจะเป็นชื่อที่เรียกง่ายจดจำได้ง่าย ควรจะเป็นชื่อเล่นพยางค์เดียว
และหลังจากที่คุณตั้งชื่อให้กับสุนัขจรจัดได้แล้ว คุณก็เรียกสุนัขจรจัดด้วยชื่อนี้อยู่เป็นประจำ จนสุนัขจรจัดจดจำได้ว่าชื่อนี้เป็นชื่อของมัน และเมื่อสุนัขจรจัดจำชื่อเรียกของตัวเองได้แล้ว ต่อไปเวลาที่คุณจะสื่อสารอะไรก็จะได้ทำง่ายยิ่งขึ้น
ให้สุนัขจรจัดทานขนมของสุนัข
หลังจากที่สุนัขจรจัดจดจำชื่อของตัวเองได้แล้วสิ่งต่อมาที่คุณควรทำก็คือ ก็ให้คุณลองหาขนมอร่อยๆ มาให้สุนัขจรจัดทานอยู่เป็นประจำ (ต้องเป็นเฉพาะแต่ขนมสำหรับสุนัขนะ ห้ามเป็นขนมของมนุษย์โดยเด็ดขาด) สัปดาห์ละประมาณ 2 – 3 ครั้ง การให้ขนมกับสุนัขจรจัดจะช่วยให้พวกมันเปิดใจให้กับคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น
พูดให้กำลังใจลูบหัวลูบตัวสุนัขจรจัดอยู่เป็นประจำ
กับคุณเป็นคนให้ขนมสุนัขจรจัดไปประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ ก็ให้คุณเริ่มความมอบความรักให้กับสุนัขจรจัดด้วยการ เข้าไปพูดคุยกับสุนัขจรจัดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
โดยคุณอาจจะพูดให้เข้ากำลังใจ พร้อมทั้งลูบหัวกับลูบตัวของสุนัขจรจัดอยู่เป็นประจำ (ก่อนที่จะสัมผัสตัวของสุนัขจรจัด คุณควรสวมอุปกรณ์ป้องกันมืออย่างถุงมือก่อน เพื่อป้องกันสุนัขจรจัดตกใจกลัวจนเผลอกัดมือของคุณเข้า)
หรือพูดคุยอะไรก็พวกมันก็ได้ ที่ไม่ใช้เรื่องดุด่าพวกมัน ให้คุณทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เป็นเวลาประมาณ 1 – 2 เดือน สุนัขจรจัดก็จะเริ่มเปิดใจกับคุณมากยิ่งขึ้น
6. ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับสุนัขจรจัด
ข้อนี้จะเป็นข้อต่อเนื่องจากข้อที่ 5 เมื่อสุนัขจรจัดเริ่มเปิดใจกับคุณแล้ว พวกมันยอมให้คุณสัมผัสใกล้ชิดกับพวกมันได้แล้ว สิ่งต่อมาที่คุณต้องทำก็คือ ให้คุณลองหากิจกรรมต่างๆ ทำร่วมกับสุนัขจรจัดของคุณดูอย่างเช่น
- คุณอาจจะใส่สายจูงแล้วพาสุนัขจรจัดออกไปเดินเล่นนอกบ้าน
- หรือคุณอาจจะหาของเล่นที่คุณมีส่วนร่วมในการเล่นกับสุนัขจรจัดของคุณอย่างเช่น จานร่อนสุนัข ที่คุณโยนจานร่อนออกไปแล้ว สุนัขของคุณวิ่งไปคาบจานร่อนกลับมาให้คุณ
กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้สุนัขจรจัดเปิดใจและยอมรับในตัวของคุณมากขึ้น พวกมันจะรู้สึกว่าคุณเป็นคนสำคัญในชีวิตของพวกมัน และพวกมันจะจงรักภักดีกับเชื่อฟังคำสั่งของคุณในเวลาต่อมา