บทนำ
บทความนี้จะมาแนะนำถึง 6 วิธีดูแลสุขภาพของสุนัขให้แข็งแรงอยู่เสมอ ซึ่งวิธีเหล่านี้ก็เป็นวิธีที่คุณใช้ดูแลสุขภาพของตัวเองกันอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว
โดย 4 ข้อแรกจะเป็นวิธีดูแลสุขภาพของสุนัข ส่วนอีก 2 ข้อหลังจะเป็นการแนะนำเพิ่มเติม เพื่อเป็นการป้องกันสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับสุนัขของคุณได้
ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนที่กำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ
6 วิธีดูแลสุขภาพของสุนัขให้แข็งแรงอยู่เสมอ
1. ให้สุนัขทานแต่อาหารที่มีประโยชน์
คุณผู้อ่านหลายคนน่าจะเคยได้ยินคำคำนี้ว่า “คุณกินอะไรเข้าไป คุณก็เป็นอย่างนั้น” นี่คำคำนี้ก็สามารถใช้กับสุนัขได้เหมือนกัน
คือ ถ้าคุณให้สุนัขของคุณทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สุนัขของคุณก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์อยู่เสมอ
และยิ่งในยุคนี้ก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก ที่คุณจะให้สุนัขของคุณทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ เพราะมีผู้ผลิตอาหารสุนัขหลายรายเลย ที่ได้ผลิตคำนวณส่วนผสมในอาหารให้กับคุณแล้วว่า
ถ้าสุนัขของคุณกินอาหารในปริมาณเท่านี้ในแต่ละวัน สุนัขของคุณจะได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน หน้าที่ของคุณก็คือ ให้คุณดูว่าคุณอยากบำรุงด้านไหนให้กับสุนัขของคุณอย่างเช่น
ถ้าคุณอยากให้สุนัขของคุณมีขนสวยนุ่มลื่นอยู่ประจำ ก็ให้คุณเลือกอาหารเม็ดสุนัขสูตรบำรุงผิว หรือถ้าคุณอยากให้สุนัขของคุณมีกระดูกที่แข็งแรง คุณก็อาจจะเลือกอาหารเม็ดสูตรบำรุงกระดูกก็ได้เหมือนกัน
แล้วถ้าจะให้ดีคุณควรให้สุนัขของคุณทานผักและผลไม้ที่สุนัขของคุณสามารถทานได้อยู่เป็นประจำอย่างเช่น แครอท กับแอปเปิ้ล เพียงเท่านี้สุนัขของคุณก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรงอยู่เสมอแล้ว
2. ให้สุนัขออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ
นอกจากทานอาหารให้ครบ 5 หมู่แล้ว การออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ จะช่วยเสริมสร้างให้สุนัขของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย
คุณสามารถให้สุนัขของคุณออกกำลังกายอย่างง่ายๆ โดยการ พาสุนัขไปเดินเล่นบริเวณรอบๆ ตัวบ้านของคุณ หรือคุณอาจจะพาสุนัขของคุณไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะใกล้บ้านของคุณก็ได้เหมือนกัน
หรือคุณอาจจะหาพื้นที่กว้างๆ ในบ้านของคุณแล้วเล่นเกมโยนสิ่งของอย่าง ลูกบอล หรือจานร่อน แล้วบอกให้สุนัขของคุณไปคาบสิ่งเหล่านั้นกลับมาให้คุณก็ได้เหมือนกัน
คุณควรให้สุนัขของคุณออกกำลังกายให้ได้วันละประมาณ 15 – 20 นาทีต่อวัน สัปดาห์ละประมาณ 3 – 5 ครั้งต่อสัปดาห์ เพียงเท่านี้สุนัขของคุณก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรง รวมถึงยังทำให้สุนัขของคุณมีสุขภาพจิตที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
3. หากิจกรรมฝึกสมองให้กับสุนัขของคุณ
นอกจากการให้สุนัขของคุณทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ กับการให้สุนัขของคุณได้ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำแล้ว การฝึกสมองของสุนัขก็เป็นเรื่องที่คุณควรทำอยู่เป็นประจำ
โดยคุณอาจจะหาพวกของเล่นฝึกสมองของสุนัข มาให้สุนัขของคุณได้เล่นอยู่เป็นประจำ หรือคุณอาจจะหาเกมล่าสมบัติก็ได้เหมือนกัน
โดยให้คุณลองฉีกขนมของสุนัขเป็นชิ้นเล็กๆ วางไว้ตามทางเดิน โดยปลายทางของขนมชิ้นเล็กๆ จะเป็นสมบัติก้อนโตอย่างเช่น ขนมชิ้นใหญ่ หรือของเล่นชิ้นใหม่ของสุนัข
การทำแบบนี้จะช่วยพัฒนาทักษะทางสมองของสุนัขได้ แถมยังช่วยให้สุนัขของคุณมีสุขภาพจิตที่ดี และเมื่อสุนัขของคุณมีสุขภาพจิตที่ดีแล้ว มันจะส่งผลทำให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายของสุนัขทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น
4. คอยมอบความรักให้กับสุนัขอยู่เป็นประจำ
การเลี้ยงสุนัขก็เหมือนกับการเลี้ยงลูก ที่คุณต้องคอยมอบความรักความเอาใจใส่สุนัขของคุณอยู่เป็นประจำ
การมอบความรักให้กับสุนัขอย่างเช่น การเข้าลูบหัว ลูบตัว กอด และพูดให้กำลังใจสุนัขอยู่เป็นประจำ มันจะช่วยให้สุนัขของคุณรู้สึกถึงความอบอุ่นจากความรักที่คุณมีให้
สิ่งพวกนี้มันจะทำให้สุนัขของคุณมีสุขภาพจิตที่ดีอยู่เสมอ และเมื่อสุนัขของคุณมีสุขภาพจิตที่ดี มันจะส่งผลทำให้สุนัขของคุณมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงในทางอ้อมอีกด้วย
5. พาสุนัขไปตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำ
จริงๆ แล้วเพียงแค่คุณทำตาม 4 ข้อที่กล่าวมาสุนัขของคุณก็จะมีที่แข็งแรงสมบูรณ์อยู่เสมอแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่คุณควรทำอย่างขาดไม่ได้เลยก็คือ การพาสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำ หรือพาสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพในทุกๆ 6 เดือน
เพราะถึงแม้ว่าคุณจะดูแลสุขภาพของสุนัขดีอย่างไรก็ตาม สุนัขก็ยังมีโอกาสป่วยเป็นโรคต่างๆ ได้อยู่ดีไม่ว่าจะเป็น โรคประจำสายพันธุ์ ,โรคมะเร็ง ,โรคเห็บหมัด รวมถึงโรคเจ็บปวดที่ข้อต่อกระดูกเมื่อเข้าสู่วัยชรา
ซึ่งการตรวจสุขภาพจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ โดยการตรวจสุขภาพจะเป็นตัวเช็คลิสต์ให้คุณรู้ว่า สุนัขของคุณยังมีสุขภาพที่แข็งแรงดีอยู่หรือเปล่า
และในกรณีที่ตรวจพบว่าสุนัขของคุณกำลังป่วยเป็โรคบางอย่างอยู่ ทางสัตวแพทย์จะได้ทำการรักษาโรคนั้นตั้งแต่ในระยะแรกๆ ก่อนที่โรคนั้นจะทำให้สุนัขเกิดอาการป่วยหนัก จนเสียชีวิตลงได้
6. เตรียมค่าใช้จ่ายในการรักษาของสุนัขให้พร้อม
สุนัขจะไม่เหมือนกับมนุษย์อย่างพวกเราตรงที่ ถ้ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายของพวกเราแล้ว พวกเรายังสามารถบอกอาการเหล่านั้นให้กับหมอรู้ได้ว่า คุณมีอาการอย่างไร คุณรู้สึกเจ็บปวดตรงไหนบ้าง
แต่สำหรับสุนัขแล้ว พวกมันไม่สามารถสื่อสารออกมาเป็นคำพูดเหมือนกับมนุษย์อย่างพวกเราได้ จึงทำให้เมื่อเรารู้ตัวอีกที สุนัขของคุณก็มีอาการป่วยขั้นรุนแรงแล้ว
ดังนั้นสิ่งที่คุณเตรียมไว้ก็คือ ให้คุณเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้เป็นค่ารักษาพยาบาลสุนัขของคุณ โดยที่คุณอาจจะเตรียมเงินไว้ประมาณ 20000 – 30000 บาท เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินคุณจะได้มีเงินตรงส่วนนี้จ่ายค่ารักษาพยาบาลของสุนัขได้
หรือคุณอาจจะทำประกันสุขภาพให้กับสุนัขของคุณก็ได้เหมือนกัน ซึ่งมันจะค่อนข้างประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคต่างๆ ของสุนัขไปได้เยอะเลย ในกรณีที่สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคต่างๆ ที่ร้ายแรง
ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนที่สนใจเรื่องการทำประกันสุขภาพของสุนัข คุณสามารถเปิด google แล้วให้พิมพ์หา “ประกันสุขภาพของสุนัข” ตามความต้องการของคุณได้เลยครับ