บทนำ
สุนัขก็เหมือนกับมนุษย์ที่เมื่อเวลาผ่านไปสุนัขก็จะแก่ตัวลงเหมือนกับมนุษย์ แต่จะต่างกันตรงที่สุนัขจะแก่ไวกว่ามนุษย์อย่างพวกเรา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสุนัขสายพันธุ์ขนาดใหญ่ที่จะแก่ตัวได้เร็วกว่าสุนัขสายพันธุ์ขนาดเล็ก
ตัวอย่างเช่น สุนัขสายพันธุ์เกรดเดน (Great Dane) เมื่ออายุเข้าสู่ปีที่ 6 ก็ถือว่าสุนัขสายพันธุ์นี้เข้าสู่วัยชราแล้ว แต่ในทางกลับกันถ้าเป็นสุนัขสายพันธุ์ชิวาว่า (Chihuahua) จะเริ่มเข้าสู่วัยชราเมื่อมีอายุได้10 ปีขึ้นไป
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสุนัขจะเข้าสู่วัยชราเร็วหรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่กับปัจจัยการเลี้ยงดูของเจ้าของสุนัข ถ้าคุณเลี้ยงดูสุนัขของคุณอย่างดี ให้สุนัขทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงให้สุนัขได้ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ก็จะช่วยทำให้สุนัขของคุณเข้าสู่วัยชราได้ช้าลงกว่าปกติได้
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อสุนัขเข้าสู่วัยชราแล้ว
- อย่างแรกเลยสุนัขของคุณจะมีปัญหาในเรื่องของโรคข้อต่อเสี่อม ซึ่งมันจะทำให้สุนัขของคุณไม่อยากเดินไปไหนไกลๆ เพราะรู้สึกเจ็บปวดที่กระดูกข้อต่อ จึงทำให้สุนัขของคุณมักเลือกที่จะนอนอยู่เฉยๆ กับที่มากกว่าที่จะลุกขึ้นเดินไปเดินมา
- ระบบต่างๆ ในร่างกายของสุนัขจะเริ่มค่อยๆ เสื่อมถอยลง ซึ่งมันจะทำให้สุนัขของคุณมีความเสี่ยงในการเป็นโรคที่เกี่ยวกับตับ ไต และหัวใจได้ง่ายยิ่งขึ้น
- สุนัขของคุณจะรู้สึกเครียดและวิตกกังวลได้ง่ายกว่าปกติ
- ฟันของสุนัขจะค่อยๆ เสื่อมโทรมลง จนทำให้สุนัขเคี้ยวอาหารได้ยากมากยิ่งขึ้น
- ด้วยความที่ว่าเวลาโดยส่วนใหญ่ของสุนัขวัยชรามักจะใช้กับการนอนเสียมากกว่า จึงทำให้สุนัขในวัยนี้มักจะป่วยเป็นโรคอ้วน กับโรคเบาหวานได้ง่ายกว่าปกติ
5 วิธีดูแลสุนัขวัยชรา
1. พาสุนัขไปตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำ
สิ่งที่คุณต้องทำอยู่เป็นประจำนั้นก็คือ การพาสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพในทุกๆ 6 เดือน การตรวจสุขภาพนั้นจะช่วยให้คุณรู้ว่า สุขภาพโดยรวมของสุนัขในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง พวกมันมีความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคอะไรอยู่หรือเปล่า
และในกรณีที่คุณตรวจเจอโรคร้ายแรงของสุนัขตั้งแต่เนิ่นๆ จะเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาสุนัขไปได้เยอะเลย เพราะการรักษาโรคร้ายแรงของสุนัขตั้งแต่เนินๆ จะเพิ่มโอกาสทำให้สุนัขหายป่วยจากโรคร้ายแรงเหล่านี้ได้ อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการรักษาก็ไม่มากมายมหาศาลเหมือนกับตอนที่สุนัขป่วยเป็นโรคร้ายแรงแบบหนักๆ
2. ให้สุนัขวัยชราของคุณทานแต่อาหารที่มีประโยชน์
เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณต้องทำอยู่เป็นประจำนั้นก็คือ การให้สุนัขของคุณทานแต่อาหารที่มีประโยชน์อยู่เป็นประจำ แต่ในกรณีที่คุณไม่รู้ว่าควรจะเลือกซื้ออาหารแบบไหนให้สุนัขแก่ของคุณทานดี
คุณก็สามารถเลือกซื้ออาหารเม็ด หรืออาหารเปียกสำหรับสุนัขวัยชราโดยเฉพาะเลยก็ได้เหมือนกัน เพราะอาหารเหล่านี้ถ้าผู้ผลิตได้พัฒนาขึ้นมาสำหรับสุนัขวัยชราโดยเฉพาะ
สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุนัขวัยชรา
ถ้าเป็นไปได้คุณควรพลิกดูฉลากอาหารของสุนัขที่คุณกำลังจะซื้อว่ามีสารอาหารเหล่านี้อยู่หรือไม่
- แอล คาร์นิทีน (L-carnitine) สารอาหารตัวนี้จะมีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนักของสุนัข รวมถึงยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานของสุนัขลงได้อีกด้วย
- กรดไขมันอิ่มตัว DHA กับ EPA กรดไขมันทั้งสองตัวจะมีส่วนช่วยบำรุงกระดูกไขข้อต่างๆ ของสุนัขให้แข็งแรงอยู่เสมอ มันจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคไขข้อเสี่อมของสุนัขลงได้
- กลูโคซามีน (glucosamine) กับ คอนดรอยติน (chondroitin) สารอาหารทั้งสองตัวนี้จะช่วยบำรุงไขข้อกระดูกของสุนัขให้กลับมาแข็งแรงเป็นปกติดีดังเดิม
- คุณควรเลือกอาหารสุนัขที่มีค่าโซเดียมต่ำเพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจของสุนัขลง
3. ดูแลสุขภาพช่องปากของสุนัขให้ดีอยู่เสมอ
เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณต้องใส่ใจนั้นก็คือ คุณต้องดูแลสุขภาพช่องปากของสุนัขวัยชราให้สะอาดอยู่เสมอเพราะว่าเมื่อสุนัขเข้าสู่วัยชราแล้ว ฟันและเหงือกของพวกมันก็จะค่อยๆ เสื่อมโทรมลง
ในกรณีที่คุณปล่อยปละละเลยไม่ยอมทำความสะอาดสุขภาพช่องปากของสุนัข มันอาจจะทำให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคฟันอักเสบ หรือป่วยเป็นโรคเหงือกอักเสบขึ้นมาได้
ซึ่งมันจะเป็นช่องทางการเข้าของเชื้อโรคจนทำให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคต่างๆ ขึ้นมาได้ ดังนั้นคุณควรหมั่นแปรงฟันให้กับสุนัขของคุณอยู่เป็นประจำ สัปดาห์ละประมาณ 3 – 4 ครั้งต่อสัปดาห์
4. พาสุนัขของคุณไปออกกำลังกายบ้าง
ไม่ว่าสุนัขจะอายุเท่าไหร่การออกกำลังกายก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับร่างกายของสุนัข ดังนั้นคุณควรจะหาเวลาพาสุนัขแก่ของคุณไปออกกำลังกายบ้าง
สำหรับสุนัขวัยชราที่มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับปวดกระดูกข้อต่ออยู่เป็นประจำ คุณควรให้สุนัขของคุณออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ การว่ายน้ำจะช่วยให้สุนัขของคุณได้บริหารกระดูกข้อต่ออย่างเต็มที่ และเมื่ออยู่ในน้ำสุนัขของคุณไม่รู้สึกเจ็บปวดที่กระดูกข้อต่อเลย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนที่คุณจะพาสุนัขของคุณไปว่ายน้ำคุณควรพาสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพกับทางสัตวแพทย์ก่อน เพื่อดูว่าสุนัขของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรงพอที่จะว่ายน้ำได้หรือเปล่า
รวมถึงอย่าให้สุนัขวัยชราของคุณว่ายน้ำจนเวลา 15 – 20 นาที เพราะจะมีความเสี่ยงทำให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคปอดบวมขึ้นมาได้
5. เตรียมสิ่งของที่จำเป็นสำหรับสุนัขแก่
โดยปกติแล้วสุนัขวัยชรามักจะมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกข้อต่อเสื่อม ดังนั้นเพื่อลดภาระกระดูกข้อต่อของสุนัข คุณควรเลือกที่นอนที่มีความนุ่มสูง หรือคุณอาจจะหาผ้าขนหนูนุ่มๆ มาปูเป็นที่นอนให้สุนัขแก่ของคุณนอนก็ได้เหมือนกัน
รวมถึงคุณควรทำทางลาดไว้ตามพื้นที่ที่สุนัขของคุณต้องขึ้นลงบันได หรือต้องยืนขึ้นในที่สูงๆ เพื่อเป็นการช่วยลดการกระทบกระเทือนของกระดูกข้อต่อของสุนัขลงได้ หรือคุณอาจจะอุ้มสุนัขของคุณขี้นลงบันได้แทนเอาเลยก็ได้เหมือนกัน
