บทนำ
5 วิธีป้องกันไม่ให้สุนัขป่วยเป็นโรคผิวหนังอักเสบในช่วงหน้าร้อน ในช่วงที่มีอากาศร้อนจัดติดต่อกันเป็นเวลานาน มันจะทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคผิวหนังได้ง่ายมาก
โดยโรคดังกล่าวจะสร้างความเจ็บปวดกับความทรมานให้กับสุนัขของคุณเป็นอย่างมาก แถมคุณยังต้องเสียเวลากับเงินทองในการพาสุนัขไปรักษาอีกด้วย
ถ้าคุณไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับคุณและสุนัขของคุณ เรามาเรียนรู้วิธีป้องกันโรคผิวหนังอักเสบของสุนัข เมื่อเข้าสู่หน้าร้อนกันดีกว่า โดยก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักว่าโรคผิวหนังอักเสบของสุนัขคืออะไรกันก่อน
โรคผิวหนังอักเสบของสุนัขคืออะไร
โรคผิวหนังอักเสบ หรือ Hot Spot ในสุนัข เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่ทำให้สุนัขของคุณมีแผลอักเสบเกิดขึ้นตามผิวหนัง โดยลักษณะของแผลจะมีเป็นรูปวงกลม เป็นแผลแฉะที่มีน้ำเยิ้มๆ ไหลออกมาจากบาดแผลอยู่เสมอ
สุนัขของคุณจะรู้สึกเจ็บปวดและคันตรงบริเวณที่เกิดแผลเป็นอย่างมาก ซึ่งมันจะทำให้สุนัขล้มตัวไปเข้าเลีย กัด หรือเกาบาดแผลที่เกิดขึ้นเพื่อที่จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของมัน
แต่การกระทำดังกล่าวจะยิ่งขึ้นทำให้บาดแผลเหล่านั้นลุมลามไปใหญ่โต โดยปกติแล้วสุนัขมักจะป่วยเป็นโรคผิวหนังชนิดนี้ได้ง่ายเมื่อเข้าสู่หน้าร้อน
วิธีรักษาโรคผิวหนังอักเสบในสุนัข
สำหรับวิธีรักษาโรคผิวหนังอักเสบในสุนัข ทางสัตวแพทย์จะทำการโกนขนตรงบริเวณที่มีแผลเกิดขึ้น แล้วค่อยทำการล้างแผลให้สะอาด
เสร็จแล้วทางสัตวแพทย์ก็จะให้ยาปฏิชีวนะ และยาทาภายนอกสำหรับฆ่าเชื้อแบคทีเรียตัวการที่ทำให้สุนัขเกิดป่วยเป็นโรคผิวหนัง
กับให้แชมพูที่มีส่วนผสมของ benzoyl peroxide มาให้สุนัขของคุณได้ใช้อาบน้ำ ซึ่งแชมพูชนิดนี้จะช่วยให้สุนัขของคุณฟื้นตัวได้เร็วมากยิ่งขึ้น
5 วิธีป้องกันไม่ให้สุนัขป่วยเป็นโรคผิวหนังอักเสบในช่วงหน้าร้อน
1. ดูแลใส่ใจสุนัขของคุณอยู่เสมอ
สภาพอากาศที่ร้อนจัดของหน้าร้อนจะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของสุนัขโดยตรง มันจะทำให้สุนัขของคุณเกิดความเครียดสะสมขึ้นมาได้ง่ายมาก
และเมื่อสุนัขเกิดความเครียดมากๆ เข้า ก็จะทำให้สุนัขมีพฤติกรรมชอบกัด เลีย และเกาผิวหนังเล่นอยู่ตลอดทั้งวัน เพื่อเป็นการระบายความเครียดที่สะสมอยู่ในร่างกายของพวกมัน
แต่พฤติกรรมเหล่านี้จะส่งผลทำให้สุนัขของคุณมีโอกาสป่วยเป็นโรคผิวหนังอักเสบขึ้นมาได้
วิธีป้องกัน
ถ้าคุณไม่อยากให้สุนัขของคุณมีความเสี่ยงในการเป็นโรคผิวหนังอักเสบในช่วงหน้าร้อน คุณต้องทำให้สุนัขของคุณมีสุขภาพจิตที่ดีอยู่เสมอ
โดยให้คุณหาเวลามาเล่นกับสุนัขบ้างวันละประมาณ 15 – 20 นาที สำหรับการเดินกับสุนัขนั้นคุณก็สามารถมาได้อย่างง่ายๆ โดยการ
- พาสุนัขออกไปเดินเล่นรอบหมู่บ้านของคุณ (ควรพาออกไปเดินเล่นหลังเวลา 16.30 น. ไปแล้ว ในช่วงเวลานั้นอากาศจะไม่ร้อนจัดมากจนเกินไป)
- วิ่งเล่นไล่จับกับสุนัข
- เล่นซ่อนลับกับสุนัข
- โยนตุ๊กตาหรือลูกบอล แล้วสั่งให้สุนัขวิ่งไปคาบกลับมา
- พูดคุยให้กำลังใจบอกรักกับสุนัขอยู่เป็นประจำ
- ลูบหัว ลูบตัว กอดสุนัขของคุณบ้าง
เพียงเท่านี้สุนัขของคุณก็จะมีสุขภาพจิตที่ดีอยู่เสมอแล้ว และเมื่อสุนัขของคุณไม่เครียดพวกมันก็จะไม่กัด เลีย เกาผิวหนังของพวกมัน ซึ่งมันจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคผิวหนังอักเสบของสุนัขลงได้
2. อย่าปล่อยให้สุนัขลงแช่น้ำเอง
ในช่วงหน้าร้อนที่มีสภาพอากาศร้อนจัดติดต่อกันตลอดทั้งวัน มันจะมีโอกาสสูงมากที่สุนัขของคุณหาวิธีคลายร้อนโดยการลงไปแช่น้ำตามภาชนะต่างๆ ในบ้านของคุณไม่ว่าจะเป็น
- ในอ่างน้ำ
- กะละมังล้างจาน
- แอ่งน้ำ
- บ่อปลา
- อ่างบัว
ถึงแม้วิธีนี้จะช่วยคลายความร้อนให้กับสุนัขได้เป็นอย่างดี แต่วิธีดังกล่าวก็เสี่ยงทำให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคผิวหนังอักเสบได้ง่ายเป็นอย่างมาก เพราะน้ำที่สุนัขกระโดดลงไปแช่นั้นจะมีความสกปรกเป็นอย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็นสารเคมีต่างๆ ของผกชักฟอกที่อยู่ในกะละมังล้างจาน หรือสิ่งสกปรกจากดินโคลนที่อยู่ในบ่อเลี้ยงปลา สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวเร่งทำให้สุนัขของคุณมีโอกาสป่วยเป็นโรคผิวหนังอักเสบขึ้นมาได้
วิธีป้องกัน
เพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ ให้คุณไปหาซื้อสระว่ายน้ำเป่าลมของเด็กที่มีขนาดไม่ลึกจนเกินไป และมีพื้นที่ให้สุนัขของคุณได้ว่ายน้ำเล่น มาให้สุนัขของคุณได้ว่ายน้ำเล่นคลายร้อนดู โดยให้คุณกำหนดเวลาเล่นน้ำของสุนัขไว้ประมาณ 10 – 15 นาทีต่อครั้ง
ควรให้สุนัขของคุณได้ว่ายน้ำในช่วงเวลาที่ไม่ร้อนจัดจนเกินไป (หลัง 16.30 น.ไป) และเมื่อสุนัขของคุณว่ายน้ำเสร็จ คุณก็อุ้มสุนัขของคุณมาเป่าขนให้แห้งสนิท
เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดพฤติกรรมการกระโดดลงไปแช่น้ำตามพื้นที่ต่างๆ ในบ้านของคุณได้แล้ว
3. ป้องกันเห็บหมัดในสุนัข
ในช่วงหน้าร้อนเป็นช่วงเวลาที่เห็บหมัดของสุนัขแพร่กระจายตัวได้เป็นอย่างดี จึงทำให้มีสุนัขหลายตัวเลยที่มักจะติดเห็บหมัดกันในช่วงหน้าร้อน และเมื่อมีเห็บหมัดเข้ามาอาศัยอยู่บนร่างกายของสุนัขเป็นจำนวนมาก
ก็จะทำให้สุนัขมีอาการคันตามผิวหนัง จนสุนัขยกขาขึ้นมาเกาบนผิวหนังของพวกมันตลอดทั้งวัน ซึ่งมันจะทำให้ผิวหนังตรงส่วนนั้นเกิดการอักเสบขึ้นมาได้
วิธีป้องกัน
สำหรับวิธีป้องกันเห็บหมัดสุนัขเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนนั้นคุณสามารถทำได้ด้วยการ
- พาสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนป้องกันเห็บหมัดสุนัข
- ใช้ยาหยดเห็บหมัดสุนัขบนหลังคอของสุนัข (ยาชนิดนี้จะค่อนข้างรุนแรง คุณต้องใช้อย่างระมัดระวัง)
- หมั่นทำความสะอาดพื้นที่ในบ้านของคุณอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นทีที่สุนัขใช้พักอาศัยอยู่ รวมถึงสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่สุนัขของคุณใช้อยู่เป็นประจำอย่างเช่น ที่นอนกับของเล่นของสุนัข
4. อย่าอาบน้ำสุนัขบ่อยจนเกินไป
มีคนเลี้ยงสุนัขหลายคนเลยที่ชอบอาบน้ำให้กับสุนัขของตัวเองเพื่อช่วยคลายความร้อนให้กับสุนัขในช่วงหน้าร้อน ซึ่งมันก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยคลายความร้อนให้กับสุนัขได้เป็นอย่างดีเลย
แต่การอาบน้ำที่มากจนเกินไปนั้น (มากกว่า 4 ครั้งต่อเดือน) มันจะส่งผลทำให้ผิวหนังของสุนัขขาดความชุ่มชื่น จนเป็นเหตุทำให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคผิวหนังอักเสบขึ้นมาได้
วิธีป้องกัน
เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวให้คุณหาวิธีคลายร้อนให้กับสุนัขของคุณด้วยวิธีอื่นอย่างเช่น
- หาของเย็นๆ มาให้สุนัขของคุณทานอย่างเช่น ผลไม้ที่สุนัขกินได้แบบแช่แข็ง ,นำน้ำแข็งใส่ลงไปในชามให้น้ำแล้วให้สุนัขดื่มคลายร้อน
- ซื้อสระยางเป่าลมมาให้สุนัขได้ว่ายน้ำคลายเครียด
- ให้สุนัขพักอาศัยอยู่ในห้องที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หรือคุณอาจจะลงทุนเปิดแอร์ให้สุนัขอยู่เลยก็ได้เหมือนกัน
- เช็คตัวสุนัขด้วยผ้าเย็น โดยให้คุณหาผ้าขนหนูมาสักหนึ่งผื่น นำไปชุบน้ำเย็น(ต้องไม่ใช่น้ำที่เย็นจัดหรือร้อนจัดจนเกินไป) แล้วมาเช็คตามตัวของสุนัขดู วิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยคลายร้อนให้กับสุนัขของคุณได้
5. แปรงขนให้กับสุนัขอยู่เป็นประจำ
การแปรงขนให้กับสุนัขอยู่เป็นประจำนั้นจะเป็นอีกวิธีที่ช่วยป้องกันโรคผิวหนังอักเสบของสุนัขลงได้ เพราะการแปรงขนให้กับสุนัขอยู่เป็นประจำจะช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังของสุนัขผลิตน้ำมันชนิดหนึ่งขึ้นมา
ซึ่งน้ำมันดังกล่าวจะมีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังของสุนัขอยู่เสมอ แถมน้ำมันชนิดนี้ยังมีส่วนช่วยให้ขนของสุนัขเงางามอยู่เสมออีกด้วย
รวมถึงในกรณีที่คุณเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ขนยาว การแปรงขนให้กับสุนัขอยู่เป็นประจำจะช่วยป้องกันไม่ให้ขนของสุนัขกลายกันจนเป็นสังกะตังได้
ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สุนัขของคุณมีโอกาสป่วยเป็นโรคผิวหนังอักเสบขึ้นมาได้ สำหรับการแปรงขนของสุนัขที่ดี คุณควรแปรงขนให้กับสุนัขของตัวเองสัปดาห์ละ 3 – 5 ครั้ง ครั้งละประมาณ 10 – 15 นาทีก็จะถือว่าดีเยื่ยมเลย