5 โรคผิวหนังที่สุนัขสามารถนำพาโรคนี้มาติดคุณได้

5 โรคผิวหนังที่สุนัขสามารถนำพาโรคนี้มาติดคุณได้

บทนำ

บทความนี้ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโรคผิวหนังของสุนัข ที่สุนัขสามารถเป็นพาหนะนำพาโรคนี้มาติดสู่คุณได้

คุณรู้หรือไม่ว่าในประเทศสหรัฐอเมริกา มีเจ้าของสุนัขถึง 40% – 50% เลย ที่ติดโรคผิวหนังจากสุนัขของตัวเองผ่านการคลุกคลีกับสุนัขของตัวเองอย่างใกล้ชิด

เพื่อไม่ให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นกับคุณได้ เรามาดูกันดีกว่าว่า 5 โรคผิวหนังที่สุนัขเป็นพาหนะนำพาโรคนี้มาติดสู่คุณได้มีโรคอะไรบ้าง เผื่อคุณจะได้ระวังตัวไว้เผื่อสุนัขของคุณเป็นโรคเหล่านี้ขึ้นมา

เอาละเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ

5 โรคผิวหนังที่สุนัขสามารถนำพาโรคนี้มาติดคุณได้

มุนษย์สามารถติดหมัดจากสุนัขได้

1. โรคหมัดในสุนัข

ปัญหาเรื่องหมัดในสุนัขเป็นปัญหาที่คนเลี้ยงสุนัขส่วนใหญ่ต้องพบเจอกัน ถึงแม้ว่าตัวหมัดจะมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่หมัดที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายของสุนัขจะมีอยู่ด้วยกัน 4 สายพันธุ์ได้แก่

  • Ctenocephalides felis
  • C. canis
  • Pulex spp.  
  • Echnidnophaga gallinacean

โดยเมื่อตัวหมัดสายพันธุ์เหล่านี้กระโดดขึ้นมาอาศัยอยู่บนร่างกายของสุนัขแล้ว พวกมันจะทำการดูดเลือด และวางไข่ตามผิวหนังสุนัข ซึ่งมันจะส่งผลทำให้สุนัขของคุณเกิดอาการคันอย่างรุนแรง รวมถึงยังนำพาโรคต่างๆ มาติดให้กับสุนัขของคุณได้

และนอกจากสุนัขแล้ว พวกตัวหมัดเหล่านี้ยังสามารถกระโดดขึ้นมาอาศัยอยู่ตามผิวหนังของคุณได้ โดยพวกมันมักจะชอบกระโดดขึ้นมาอยู่ตรงบริเวณหน้าแข้งของคณ แล้วตัวหมัดก็จะทำการกัดผิวหนังของคุณ จนทำให้คุณเกิดอาการคันขึ้นมาได้

วิธีป้องกันหมัดในสุนัข

สำหรับวิธีป้องกันหมัดในสุนัข คุณสามารถทำได้โดยการพาสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนป้องกันเห็บหมัดกับทางสัตวแพทย์อยู่เป็นประจำ

หรือคุณอาจจะใช้ยาหยอดกำจัดเห็บหมัดหยอดบนหลังคอของสุนัข ในทุกๆ 3 เดือนก็ได้เหมือนกัน

สุนัขเป็นพาหะนำโรคผิวหนังมาติดมนุษย์

2. ปรสิตขนาดเล็กชนิดอื่นๆ

จะมีปรสิตขนาดเล็กบางชนิดอย่างเช่น Otodectes cynotis กับ Sarcoptes scabiei ที่เมื่อสุนัขป่วยเป็นโรคผิวหนังชนิดนี้แล้ว สุนัขจะสามารถแพร่เชื้อโรคเหล่านี้มาติดสู่คุณได้

โดยที่คุณจะสามารถติดโรคผิวหนังชนิดนี้ของสุนัขได้จากการกอดสุนัข หรือการพาสุนัขขึ้นมานอนบนเตียง เมื่อคุณป่วยเป็นโรคผิวหนังชนิดนี้แล้ว มันจะส่งผลทำให้ผิวหนังของคุณเกิดเป็นตุ่มแดงคันขึ้นมาได้

วิธีป้องกันโรคปรสิตในสุนัข

สำหรับวิธีป้องกันโรคนี้ในสุนัข คุณสามารถทำได้โดยการพาสุนัขของคุณตรวจสุขภาพกับทางสัตวแพทย์อยู่เป็นประจำ ถ้าทางสัตวแพทย์ตรวจพบว่าสุนัขของคุณกำลังติดเชื้อปรสิตเหล่านี้อยู่ ก็จะทำการรักษาให้โดยทันที

คุณติดโรคกลากจากสุนัขได้

3. โรคกลากในสุนัข

โรคกลากในสุนัข เป็นโรคที่สุนัขติดเชื้อจากเชื้อราในกลุ่มของ

  • Microsporum spp.
  • Trichophyton spp.
  • Epidermophyton spp.

โดยสุนัขจะติดเชื้อราชนิดนี้ได้จาก การสัมผัสกับดินที่มีเชื้อราชนิดนี้อาศัยอยู่ โรคนี้เป็นอีกโรคหนึ่งที่สุนัขสามารถแพร่เชื้อมาติดสู่มนุษย์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าฝน ที่โรคนี้จะแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าปกติ

ถ้าคุณติดโรคกลากจากสุนัขแล้ว มันจะส่งผลทำให้คุณมีอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • คุณจะรู้สึกคันตามบริเวณส่วนต่างๆ ของร่างกายอย่างเช่น ตามแขนขา ตามง่ามแขน ง่ายเล็บ รวมถึงตามศีรษะ
  • ผิวหนังของคุณจะเป็นขอบวงกลมสีแดง แล้วขอบวงกลมก็จะค่อยๆ ขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ
  • คุณจะรู้สึกคันตรงบริเวณผิวหนังที่เป็นขอบแดงๆ เป็นอย่างมาก
  • ผิวหนังของคุณก็ค่อยๆ กลายเป็นขุย แล้วจะค่อยๆ หลุดลอกออกมา

วิธีป้องกันโรคกลากในสุนัข

สำหรับวิธีป้องกันนั้นคุณสามารถทำได้โดยการ ให้คุณคอยสังเกตอาการต่างๆ ของสุนัขให้ดีๆ ถ้าคุณพบว่าผิวหนังของสุนัขมีความผิดปกติเกิดขึ้น

ให้คุณรีบพาสุนัขของคุณไปรักษากับทางสัตวแพทย์โดยทันที และช่วงนี้คุณห้ามสัมผัสกับสุนัขโดยตรงโดยเด็ดขาด คุณต้องสวมถุงมือก่อนทุกครั้งที่จะมีการสัมผัสตัวของสุนัข ให้คุณทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าสุนัขของคุณจะหายดี

คุณติดโรคเกลื้อนจากสุนัขได้

4. โรคเกลื้อนในสุนัข

โรคเกลื้อนในสุนัข เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราชนิด Malassezia spp. สุนัขจะป่วยเป็นโรคนี้ได้ต่อมาได้สัมผัส หรือใกล้ชิดกับสุนัขตัวอื่นๆ ที่กำลังป่วยเป็นโรคนี้อยู่

โรคนี้เป็นโรคที่สุนัขสามารถเป็นพาหนะนำพาโรคนี้มาติดสู่คุณได้ เมื่อคุณป่วยเป็นโรคนี้แล้วมันจะส่งผลทำให้ผิวหนังในร่างกายของคุณเกิดเป็นผื่นเม็ดเล็กๆ สีขาวๆ ขึ้นมาได้

รวมถึงบางทีอาจจะเป็นผื่นสีน้ำตาลขึ้นมาได้เหมือนกัน แต่ผื่นเหล่านี้จะไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกคันแต่อย่างใด

แต่มันจะส่งผลกระทบต่อความสวยความงามในร่างกายของคุณแทน มันจะทำให้คุณรู้สึกว่าผิวบนร่างกายของคุณไม่สวยเรียบเนียนเหมือนแต่ก่อน

วิธีรักษาโรคเกลื้อน

คุณสามารถรักษาโรคเกลื้อนในมนุษย์ได้โดยการใช้ยาทาสำหรับฆ่าเซื้อรา Malassezia spp. อย่างต่อเนื่องก็จะสามารถรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้

แต่โรคนี้จะมีข้อเสียอยู่ตรงที่ ถึงแม้ว่าคุณจะรักษาโรคนี้ได้แล้ว แต่รอยผิวหนังที่เกิดขึ้นยังคงอยู่กับคุณไปอีกประมาณ 3 – 6 เดือน แล้วรอยผิวหนังดังกล่าวก็จะค่อยๆ หายไปเอง

วิธีป้องกันโรคเกลื้อนในสุนัข

สำหรับวิธีป้องกันนั้นคุณสามารถได้โดย การหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขของคุณสัมผัส หรือใกล้ชิดกับสุนัขที่คุณไม่รู้จัก หรือไม่มีที่มาโดยเด็ดขาด อย่างเช่น สุนัขจรจัด หรือสุนัขที่อยู่ภายนอกบ้านที่คุณไม่เคยเห็นหน้า

คุณติดโรคสปอโรทริโคสิสจากสุนัขได้

5. สปอโรทริโคสิส ในสุนัข

สปอโรทริโคสิส ในสุนัข เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราในกลุ่มของ Sporothrix schenckii โดยเชื้อราดังกล่าวมักจะอาศัยอยู่ตามหนามของดอกกุหลาบ สุนัขของคุณจะมีโอกาสป่วยเป็นโรคนี้ได้ จากการถูกหนามของดอกกุหลาบทิ่มเอา

รวมถึงเชื้อแบคทีเรีย Nontuberculous mycobacteria ก็เป็นอีกเชื้อหนึ่งที่ทำให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคสปอโรทริโคสิสได้เหมือนกัน

โดยเชื้อแบคทีเรียประเภทนี้มักจะอาศัยอยู่ตามแหล่งสกปรกต่างๆ ที่อยู่ภายนอกบ้านอย่างเช่น ตามแหล่งน้ำสกปรก ตามดินโคลนต่างๆ

เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้จะสามารถเข้าสู่ร่างกายของสุนัขได้ ผ่านทางแผลสดที่เกิดขึ้นตามผิวหนังของสุนัข

โรคนี้ก็เป็นอีกโรคหนึ่งที่สุนัขเป็นพาหะนำพาโรคนี้มาติดสู่คุณ เมื่อคุณป่วยเป็นโรคสปอโรทริโคสิส จะมีอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • คุณจะเป็นไข้ตัวร้อน
  • จะมีตุ่มสีต่างๆ เกิดขึ้นบนร่างกายของคุณไม่ว่าจะเป็นตุ่มสีชมพู สีแดง สีม่วง เป็นต้น
  • คุณจะมีอาการไอแห้งอยู่เป็นประจำ
  • การหายใจของคุณจะเปลื่ยนแปลงไป คุณจะหายใจสั้นลง คุณจะไม่สามารถหายใจจนสุดปอดได้
  • คุณจะมีอาการปอดบวม

วิธีป้องกันโรคสปอโรทริโคสิสในสุนัข

คุณสามารถป้องกันโรคนี้ได้โดยการ ให้คุณหมั่นสังเกตร่างกายของสุนัขอยู่เป็นประจำ ถ้าคุณพบว่าบนตัวของสุนัข มีตุ่มสีแดงๆ เรียงตัวกันเป็นทาง ให้คุณรีบพาสุนัขของคุณไปรักษาโดยทันที

โดยในช่วงนี้ก่อนที่คุณจะสัมผัสตัวของสุนัข คุณต้องสวมถุงมือก่อนทุกครั้ง ห้ามลืมโดยเด็ดขาด ไว้สุนัขของคุณหายดีแล้ว คุณถึงจะถอดถุงมือแล้ว สัมผัสตัวสุนัขของคุณได้