5 อวัยวะสุดลึกลับที่บนร่างกายของสุนัข

5 อวัยวะสุดลึกลับที่บนร่างกายของสุนัข

บทนำ

บทความนี้จะมาแนะนำ 5 อวัยวะสุดลึกลับที่บนร่างกายของสุนัข ที่คุณอาจจะไม่รู้เลยว่ามันมีอยู่บนร่างกายของสุนัขด้วยเหรอ เรามาดูกันว่ามีอวัยวะอะไรกันบ้าง

5 อวัยวะสุดลึกลับที่บนร่างกายของสุนัข

1. นิ้วติ่ง

นิ้วติ่งคือ นิ้วโป้งของสุนัขที่มีขนาดลดลงกว่าปกติ โดยในยุคสมัยก่อนต้นตระกูลของสุนัขมาจากสุนัขป่า ที่มีความยาวของนิ้วติ่งยาวพอๆ กับนิ้วโป้งของสุนัขในปัจจุบันเลย

สำหรับประโยชน์ของนิ้วติ่งในสุนัขป่านั้น จะคอยช่วยให้สุนัขป่ายืนได้อย่างมั่งคั่ง รวมถึงยังช่วยให้สุนัขป่าสามารถปีนขึ้นพื้นที่สูงๆ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

แต่ในปัจจุบันที่สุนัขส่วนใหญ่กลายเป็นสัตว์เลี้ยงอยู่ตามบ้านกันไปหมดแล้ว ทำให้นิ้วติ่งไม่ได้ใช้งานเหมือนแต่ก่อน จึงทำให้นิ้วติ่งของสุนัขค่อยๆ หดขนาดเล็กลงจนเหลืออยู่เพียงนิ้วเล็กๆ ที่อยู่ตรงบริเวณขาหน้ากับขาหลังของสุนัข

ซึ่งโดยปกตินิ่วติ่งของสุนัขจะมีอยู่เพียงข้างละหนึ่งนิ้ว แต่ก็มีสุนัขบางตัวเหมือนกันที่มีนิ้วติ่งอยู่ข้างละ 2 นิ้ว แต่นั้นก็เป็นเพียงความผิดปกติทางสรีระร่างกายของสุนัขตัวนั้นๆ

2. ต่อมก้น

ต่อมข้างก้น หรือต่อมเหม็นข้างทวารหนักของสุนัข เป็นต่อมที่มีลักษณะเป็นรูปวงรีอยู่ 2 ถุง โดยต่อมชนิดนี้จะอยู่ตรงบริเวณภายในข้างก้นของสุนัข

ซึ่งประโยชน์ของต่อมชนิดนี้จะทำหน้าที่ระบุว่าสุนัขแต่ละตัวนั้นมีกลิ่นตัวเป็นอย่างไร ไว้ใช้เวลาที่สุนัขจะทำความรู้จักซึ่งกันและกัน

โดยถ้าคุณลองสังเกตดีๆ แล้วคุณจะพบว่าทุกครั้งที่สุนัขจะทำความรู้จักกับสุนัขตัวอื่น พวกมันมักจะชอบดมก้นของกันและกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะทำให้สุนัขแต่ละตัวเรียนรู้ว่า สุนัขที่พวกมันกำลังผูกมิตรอยู่นั้น เป็นมิตรหรือเป็นศัตรูกับพวกมันกันแน่น

3. หนังตาชั้นที่สาม

หนังตาชั้นที่สามของสุนัข เป็นชั้นเนื้อเยื่อบางๆ ที่อยู่ระหว่างเปลือกตากับกระจกตาของสุนัข คุณสามารถเห็นหนังตาชั้นที่สามของสุนัขได้ด้วยการ

เอานิ้วของคุณไปกดที่บริเวณปลายหางตาของสุนัขอย่างเบาๆ แล้วคุณจะเห็นเนื้อเยื่อสีขาวอมชมพูโผล่ขึ้นมา ซึ่งนั้นแหละคือหนังตาชั้นที่สามของสุนัข

โดยปกติแล้วหนังตาชั้นที่สามของสุนัขจะทำหน้าที่คอยปกป้องดวงตา กับกระจกตาของสุนัข รวมถึงยังช่วยผลิตน้ำตาให้กับดวงตาของสุนัขอีกด้วย

4. ช่องหูของสุนัขเป็นรูปตัวแอล (L)    

ถ้าคุณลองสังเกตดูดีๆ คุณจะพบว่าช่องหูของสุนัขจะมีลักษณะเป็นรูปตัวแอล (L) แบบในภาษาอังกฤษเลย ซึ่งช่องหูตรงบริเวณส่วนนี้จะเป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรกต่างๆ

ซึ่งมันจะทำให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับหูขึ้นมาได้ ถ้าคุณไม่ได้ทำความสะอาดช่องหูรูปตัวแอลนี้อยู่เป็นประจำ

สำหรับวิธีทำความสะอาดช่องหูที่เป็นรูปตัวแอลนั้นคุณสามารถทำได้โดยการ นำน้ำยาล้างหูของสุนัขหยดลงไปในช่องหูของสุนัขในปริมาณที่เล็กน้อย

แล้วให้คุณใช้นิ้วนวดที่บริเวณใบหูด้านนอกของสุนัขอย่างเบาๆ สักพักก็จะมีขี้หู รวมถึงสิ่งสกปรกต่างๆ คลายตัวออกมาจากช่องหูของสุนัข ซึ่งคุณสามารถเช็คทำความสะอาดสิ่งสกปรกเหล่านี้ออกมาจากช่องหูของสุนัขได้เลย

5. ฟันน้ำนมของสุนัข

สุนัขจะมีทั้งฟันน้ำนมและฟันแท้เหมือนกับมนุษย์อย่างพวกเราเลย โดยฟันน้ำนมของสุนัขจะมีอยู่ด้วยกันประมาณ 28 ซึ่ ส่วนฟันแท้ของสุนัขจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 42 ซี่

สำหรับฟันน้ำนมของสุนัขจะเริ่มขึ้นมาเมื่อลูกสุนัขมีอายุได้ประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ และหลังจากนั้นฟันน้ำนมของลูกสุนัขก็จะเริ่มหลุดลงทีละซี่

โดยมีฟันแท้ขึ้นเข้ามาแทนที่ของฟันน้ำนม และฟันแท้จะค่อยๆ ขึ้นจนครบ 42 ซี่ เมื่อลูกสุนัขมีอายุได้ประมาณ 6 – 7 เดือน

แต่ก็มีสุนัขบางตัวเหมือนกันที่ฟันน้ำนมยังไม่หลุดดีแต่ก็มีฟันแท้เข้ามาแทนที่ ทางการแพทย์เรียกอาการดังกล่าวว่า “ภาวะฟันน้ำนมค้าง”  

เป็นภาวะที่ทำให้ฟันของสุนัขยาวขึ้น กับทำให้ฟันซี่นั้นมีรูปร่างที่ผิดปกติเกิดขึ้นมา ซึ่งมันจะส่งผลทำให้ฟันซี่นั้นไปขูดกับเหงือกของสุนัขอยู่เป็นประจำ จนทำให้เหงือกกับเพดานปากของสุนัขเกิดเป็นแผลขึ้นมาได้

ถ้าคุณพบว่าสุนัขของคุณมีอาการดังกล่าว ให้คุณรีบพาสุนัขของคุณไปรักษากับทางสัตวแพทย์โดยทันที