5 ความเชื่อผิดๆ ที่คุณไม่ควรทำให้กับสุนัข

บทนำ

บทความนี้จะมาแนะนำถึง 5 ความเชื่อผิดๆ ที่คุณไม่ควรทำกับสุนัข ซึ่งความเชื่อเหล่านี้บางทีคุณอาจจะได้ยินมาจากคนอื่น หลายคนบอกว่าดีคุณก็เลยเอามาทำตามบ้าง

แต่ความเชื่อเหล่านี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดเป็นอย่างมาก เพราะการทำแบบนี้จะส่งผลเสียต่อสุนัขมากกว่าผลดี รวมถึงความเชื่อบางอย่างอาจจะส่งผลเสียต่อตัวของคุณได้

ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนอยากรู้ว่า มีความเชื่อไหนบ้างที่คุณไม่ควรทำตาม ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ

5 ความเชื่อผิดๆ ที่คุณไม่ควรทำให้กับสุนัข

อย่าบีบเห็บของสุนัข

1.บี้เห็บสุนัข

หลายคนคงจะเคยได้ยินว่า “ถ้าคุณบี้เห็บแล้วเลือดของเห็บจะกระจายตัวไปโดนตัวของสุนัข ซึ่งมันจะทำให้เห็บบนตัวของสุนัขเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก”

ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลย เพราะเห็บจะวางไข่บนตัวของสุนัขได้ ต้องรอให้ไข่สมบูรณ์ได้ที่ก่อน เห็บถึงจะวางไข่บนตัวของสุนัขได้

ซึ่งไข่จะฟักตัวออกมาเป็นเห็บได้นั้นต้องใช้เวลาถึง 15 – 20 วันเลย จากข้อมูลดังกล่าวทำให้คุณรู้ว่าการบี้เห็บนั้น ไม่ได้ทำให้เลือดของเห็บที่มีไข่อยู่กระเด็นมาเกาะติดตามร่างกายของสุนัขเลย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางบทความไม่แนะนำให้คุณทำการบี้เห็บ คุณควรหาวิธีอื่นในการกำจัดเห็บหมัดบนร่างกายของสุนัขอย่างเช่น การพาสุนัขไปฉีดวัคซีนกำจัดเห็บหมัด หรืออาจจะใช้ยาหยอดกําจัดเห็บหมัดก็ได้เหมือนกัน

อย่าให้สุนัขกินกระดูกไก่

2. ให้สุนัขทานกระดูก

คุณน่าจะเห็นในหนังหลายๆ เรื่อง หรือตามการ์ตูนเรื่องต่างๆ ที่คุณมักจะเห็นภาพของสุนัขกำลังนั่งแทะกระดูกอย่างเอร็ดอร่อย ซึ่งภาพดังกล่าวอาจจะทำให้ คุณคิดว่าสุนัขของคุณสามารถทานกระดูกได้

ซึ่งจริงๆ แล้วสุนัขก็สามารถทานกระดูกได้ แต่การให้สุนัขทานกระดูกจะส่งผลเสียต่อร่างกายของสุนัขเป็นอย่างมาก เพราะเศษกระดูกที่สุนัขทานเข้าไป อาจจะเข้าไปอุดตันภายในระบบทางเดินอาหารของสุนัขได้

รวมถึงเศษกระดูกอาจจะหลุดเข้าไปทิ่มแทงอวัยวะบางส่วนในร่างกายของสุนัข และในเศษกระดูกอาจจะมีเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ที่มีส่วนทำให้สุนัขของคุณ ป่วยเป็นโรคต่งๆ ขึ้นมาได้

ดังนั้นห้ามสุนัขของคุณทานกระดูกสัตว์ในทุกกรณี

อย่าทาน้ำมันเครื่องบนตัวของสุนัข

3. เอาน้ำมันเครื่องมาทาตัวของสุนัข

น่าจะมีหลายคนคงเคยได้ยินมาว่า ถ้าสุนัขป่วยเป็นโรคผิวหนังให้ลองเอาน้ำมันเครื่องมาทาลงบนตัวของสุนัขดูสิ รับรองได้ผลดีนะ

ซึ่งมันก็จริงอยู่เพราะภายในน้ำมันเครื่อง จะมีส่วนประกอบของกำมะถันที่มีส่วนช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายของสุนัขและยังมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังผลัดเซลล์เก่าทิ้งแล้วสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาได้อีกด้วย

แต่ส่วนประกอบอื่นๆ ของน้ำมันเครื่องจะส่งผลเสียและเป็นพิษต่อร่างกายของสุนัขเป็นอย่างมาก ซึ่งสารเหล่านี้อาจจะทำให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคมะเร็งผิวหนังขึ้นมาได้เลย

รวมถึงกลิ่นของน้ำมันเครื่องอาจจะสร้างความเสียหายให้กับระบบทางเดินหายใจของสุนัขขึ้นมาได้เหมือนกัน

ดังนั้นห้ามคุณใช้น้ำมันเครื่องในการรักษาโรคผิวหนังของสุนัขโดยเด็ดขาด ถ้าสุนัขของคุณป่วยเป็นโรคผิวหนัง คุณควรพาสุนัขไปรักษาโรคผิวหนังกับทางสัตวแพทย์

ห้ามใช้ยาของมนุษย์กับสุนัข

4. เอายาม่วงมาทาให้สุนัขที่กำลังมีอาการคัน

ยาม่วง หรือ Gentian Violet เป็นยาฆ่าเชื้อชนิดหนึ่ง ที่ใช้สำหรับรักษาอาการโรคผิวหนังของมนุษย์ ทางการแพทย์ส่วนใหญ่มักจะนิยมใช้ยาตัวนี้ในการรักษาอาการ กลาก น้ำกัดเท้า เชื้อราในช่องปาก กับช่องคลอดให้กับมนุษย์

จึงทำให้ใครหลายคนคิดว่ายาตัวนี้น่าจะใช้รักษาอาการโรคผิวหนังของสุนัขได้เหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยาม่วงไม่สามารถใช้กับสุนัขได้เลย

เพราะถ้าคุณใช้ยา Gentian Violet กับสุนัขแล้ว มันจะทำให้อาการต่างๆ ของสุนัขยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ขอให้คุณจำไว้เสมอว่าสุนัขสามารถใช้ได้แต่ยาสำหรับสุนัขแต่เพียงเท่านั้น ห้ามใช้ยาสำหรับมนุษย์โดยเด็ดขาด และต้องเป็นตัวยาที่ทางสัตวแพทย์อนุญาตให้ใช้ได้ สุนัขถึงจะใช้ได้

ห้ามเอารองเท้าตบแผลที่ถูกสุนัขกัด

5. เอารองเท้ามาตบแผลที่ถูกสุนัขกัด

ความเชื่อนี้เป็นความเชื่อจากยุคสมัยโบราณ ในยุคนั้นความเจริญยังไม่ก้าวหน้า ยังไม่มีวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์สิ่งต่างๆ

ในยุคนั้นคนส่วนใหญ่เชื่อกันว่า ถ้าคุณถูกสุนัขกัดให้คุณลองเอารองเท้าของคุณมาตบลงบนบาดแผลของคุณดู แล้วคุณจะพบว่าบาดแผลที่ถูกสุนัขกัดจะหายเอง

ซึ่งความเชื่อดังกล่าวเป็นความเชื่อที่ผิดแบบสุดๆ เลย เพราะโดยปกติแล้วพวกพื้นรองเท้าที่เราสวมใส่กันอยู่นั้น จะมีความสกปรกและมีเชื้อโรคต่างๆ สะสมอยู่เป็นจำนวนมาก

การที่คุณเอารองเท้าของคุณไปตบบาดแผลที่คุณถูกสุนัขกัดนั้น มันจะยิ่งทำให้เชื้อโรคเข้าไปในบาดแผลของคุณได้มากยิ่งขึ้น มันจะส่งผลทำให้ยิ่งบาดแผลของคุณ เกิดการอักเสบและบวมโตขึ้นมาได้

สำหรับวิธีที่ถูกต้องเมื่อคุณถูกสุนัขกัด ให้คุณรีบไปหาสบู่มาทาที่บาดแผลที่คุณถูกกัดอย่างเบาๆ แล้วให้คุณรอเวลาผ่านไปประมาณ 5 – 10 นาที

แล้วให้คุณใช้น้ำเปล่าล้างทำความสะอาดแผลให้สะอาด แล้วคุณก็ซับแผลให้แห้ง แล้วให้คุณรีบไปหาสัตวแพทย์โดยทันทีเท่าที่คุณจะทำได้