4 วิธีป้องกันโรคฮีทสโตรกในสุนัข

4 วิธีป้องกันโรคฮีทสโตรกในสุนัข

บทนำ

บทความนี้จะมาแนะนำถึง 4 วิธีป้องกันโรคฮีทสโตรกในสุนัข ว่าคุณควรทำอย่างไรบ้าง พร้อมวิธีดูว่าถ้าสุนัขป่วยเป็นโรคลมแดดขึ้นมาแล้ว จะมีอาการเป็นอย่างไร

ในประเทศไทยของเรานั้นเป็นประเทศที่มีอากาศร้อนจัดปกคลุมตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อน (เมษายน – พฤษภาคม)

เป็นช่วงที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนจัดที่สุดของปี และในช่วงเวลาที่มีอากาศร้อนจัดติดต่อกันเป็นเวลานานๆ นั้น มันอาจจะทำให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคลมแดดขึ้นมาได้

สำหรับโรคลมแดดในสุนัขถือว่าเป็นภัยเงียบที่คนเลี้ยงสุนัขหลายคนไม่รู้ตัวกัน จึงไม่ค่อยหาทางป้องกันไว้ตั้งแต่เนินๆ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าถ้าคุณปล่อยให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคลมแดดแล้ว สุนัขของคุณอาจจะเสียชีวิตลงได้ในทันทีเลย ในกรณีที่คุณพาสุนัขของคุณไปรักษาไม่ทันกาล

ถ้าคุณไม่อยากให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นกับสุนัขของคุณ เรามาหาวิธีป้องกันโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) ในสุนัขกันดีกว่าครับ

4 วิธีป้องกันโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) ในสุนัข

1. หลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขของคุณยืนตากแดดเป็นเวลานานๆ

คุณไม่ควรให้สุนัขของคุณต้องยืนตากแดดเป็นเวลาติดต่อนานๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลา 12.00 -13.00 น. เพราะในช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่มีอากาศร้อนสุดของวัน

ซึ่งการให้สุนัขของคุณยืนตากแดดติดต่อกันเป็นเวลานานๆ นั้น มันจะส่งผลทำให้ร่างกายของสุนัขไม่สามารถระบายความร้อนได้ทัน จนเป็นเหตุทำให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคลมแดดขึ้นมาได้

ดังนั้นขอให้คุณคอยสังเกตพฤติกรรมต่างๆ ของสุนัข ถ้าคุณพบว่าพวกมันไปนอนอาบแดดเล่น ให้คุณรีบปิดหน้าต่าง ประตูที่มีแดดส่องเข้ามาในบ้านของคุณ

หรือคุณอาจจะพาสุนัขของคุณไปอยู่ในห้องที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกไม่มีแสงแดดสอดส่องเข้ามาในห้องนั้นก็ได้เหมือนกัน

ในกรณีที่คุณอยากพาสุนัขของคุณออกไปเดินเล่นนอกบ้าน คุณควรพาสุนัขไปเดินเล่นในช่วงเวลาประมาณ 6.00 – 7.00 น. กับช่วงเวลาหลัง 5 โมงเย็นไปแล้ว ในช่วงเวลานี้อากาศจะไม่ร้อนจัดจนเกินไป สุนัขสามารถเดินเล่นได้อย่างสบายเลย

อย่าพาสุนัขไปเดินในที่ที่มีอากาศร้อนจัด เพราะอาจจะทำให้ป่วยเป็นโรคลมแดดขึ้นมาได้

2. ให้สุนัขของคุณทานน้ำอยู่เป็นประจำ

ในช่วงหน้าร้อนที่มีอากาศร้อนจัดติดต่อกันตลอดทั้งวัน คุณควรให้สุนัขของคุณพักอาศัยอยู่ในแต่บ้าน และอีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรทำอยู่เป็นประจำนั้นก็คือ การให้สุนัขของคุณทานน้ำดื่มที่สะอาดอยู่เป็นประจำ

โดยให้คุณวางชามให้น้ำของสุนัขไว้หลายๆ จุดในบ้านของคุณ เพื่อเพิ่มโอกาสทำให้สุนัขของคุณทานน้ำได้มากยิ่งขึ้น และถ้าจะให้ดีคุณควรใส่น้ำแข็งลงไปในน้ำดื่มของสุนัข เพื่อทำให้น้ำดื่มมีความน่าดื่มมากยิ่งขึ้น

3. เปิดพัดลม หรือแอร์ให้กับสุนัข

โดยปกติแล้วร่างกายของสุนัขจะไม่สามารถระบายความร้อนได้ดีเหมือนกับมนุษย์อย่างพวกเรา จึงทำให้มีหลายครั้งที่สุนัขอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนจัดติดต่อกันเป็นเวลานานๆ อาจจะทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคลมแดดขึ้นมาได้

ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ คุณควรเปิดลมพัดให้กับสุนัขของคุณอยู่เป็นประจำ แล้วถ้าวันไหนที่คุณรู้สึกว่าวันนี้ทำไมมันถึงร้อนจัด คุณควรเปิดแอร์ให้กับสุนัขของคุณอยู่ เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคฮีทสโตรกของสุนัข

4. พาสุนัขไปว่ายน้ำ

คุณสามารถหาวิธีคลายร้อนช่วยป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคฮีทสโตรกได้โดยการ ให้คุณไปหาซื้อพวกสระน้ำเป่าลมของเด็ก

ที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่เล็กน้อยเพื่อให้สุนัขของคุณสามารถว่ายน้ำได้ และต้องไม่ลึกจนเกินไปเพื่อไม่ให้สุนัขของคุณเกิดจมน้ำในขณะที่กำลังเล่นน้ำอยู่

มาให้สุนัขของคุณได้ว่ายน้ำคลายเครียด คลายร้อนกัน หรือคุณอาจจะเปลี่ยนบรรยากาศพาสุนัขของคุณไปว่ายน้ำในสระว่ายน้ำสุนัขที่อยู่ใกล้บ้านของคุณก็ได้เหมือนกัน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณควรให้สุนัขของคุณได้ว่ายน้ำหลังช่วงเวลา 16.30 น. ไปแล้ว เพราะช่วงเวลานี้อากาศจะไม่ร้อนจัดจนเกินไป สุนัขจะสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างสบายใจเลย

การพาสุนัขไปว่ายน้ำเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคลมแดดของสุนัขลงได้

วิธีสังเกตว่าสุนัขป่วยเป็นโรคลมแดดอยู่หรือเปล่า

คุณสามารถสังเกตได้ว่าสุนัขของคุณกำลังป่วยเป็นโรคลมแดดอยู่หรือเปล่า โดยดูจากอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • ตัวของสุนัขจะร้อนจัด
  • สุนัขจะมีอาการตัวเกร็ง
  • สุนัขจะมีอาการหอบและหายใจอย่างรวดเร็ว
  • ลิ้นของสุนัขจะเปลื่ยนจากสีปกติกลายเป็นสีแดงสด
  • สุนัขจะมีอาการน้ำลายไหลออกมาจากปากอยู่ตลอดเวลา
  • ม่านตาของสุนัขจะค่อยๆ ขยายตัวมากขึ้น
  • ในกรณีที่เป็นหนัก สุนัขอาจจะเกิดอาการช็อก และหมดสติลงได้

ถ้าคุณพบว่าสุนัขของคุณมีอาการเหล่านี้ ให้คุณรีบปฐมพยาบาลสุนัขของคุณโดยทันที โดยให้คุณพาสุนัขของคุณไปอยู่ในห้องที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีแสงแดดสอดส่องเข้ามาที่ห้องของคุณ

และให้คุณหาผ้าชุบน้ำมาเช็คตัวให้กับสุนัขของคุณ (ห้ามเป็นน้ำที่เย็นจัดนะ ต้องเป็นน้ำที่มีอุณหภูมิปกติเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขเกิดอาการช็อกในระหว่างที่กำลังเช็คตัวอยู่ได้)

และเมื่อตัวของสุนัขเย็นลงแล้ว ให้คุณรีบพาสุนัขของคุณไปหาสัตวแพทย์โดยทันทีเท่าที่คุณจะทำได้