บทนำ
เมื่อสุนัขของคุณป่วยเป็นโรคบางอย่าง จะมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับช่องปากของสุนัข โดยบทความนี้จะมาบอกให้คุณผู้อ่านฟังว่า อาการผิดปกติเหล่านี้เกิดขึ้นจากสาเหตุใดบ้าง
พร้อมวิธีลดความเสี่ยงไม่ให้สุนัขของคุณมีอาการเหล่านี้ในช่วงท้ายของบทความ สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่กำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ
4 อาการผิดปกติในช่องปากของสุนัข ที่คุณต้องรีบพาสุนัขไปหาหมอในทันที
1. ฟันของสุนัขเปลื่ยนสี
โดยปกติแล้วฟันของสุนัขที่มีสุขภาพดีจะเป็นสีขาว แต่เมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับฟันของสุนัข มันจะทำให้สีของฟันสุนัขเปลื่ยนแปลงไปอย่างเช่น
- ถ้าฟันของสุนัขเปลื่ยนเป็นสีเหลือง นั้นเกิดจากมีคราบหินปูนเข้าไปสะสมที่ฟันของสุนัข
- ถ้าฟันของสุนัขเปลื่ยนเป็นสีแดง นั้นเกิดจากการสลายของเม็ดเลือดแดง
- ถ้าฟันของสุนัขดูโปร่งแสงมากกว่าปกติ นั้นเป็นอาการที่บ่งบอกได้ว่า ฟันของสุนัขกำลังติดเชื้อ
ดังนั้นถ้าคุณพบว่าฟันของสุนัขมีสีที่เปลื่ยนแปลงไปจากปกติ คุณควรพาสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพช่องปากกับทางสัตวแพทย์ในทันที
2. สุนัขมีกลิ่นปาก
สาเหตุที่ทำให้สุนัขมีกลิ่นปากนั้นมีได้หลากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็น
- สุนัขกินอาหารที่มีกลิ่นคาวสูง
- สุนัขไปกินอาหารเน่าเสีย
- มีเศษอาหารเข้าไปติดอยู่ตามซอกฟันของสุนัข
- มีบาดแผลเกิดขึ้นภายในช่องปาก
- มีตุ่มหนอง หรือเนื้องอกเกิดขึ้นภายในช่องปากของสุนัข
- สุนัขป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารอย่างเช่น โรคกรดไหลย้อน
- โรคบางอย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคไต ก็ทำให้สุนัขมีกลิ่นปากขึ้นมาได้เหมือนกัน
ดังนั้นถ้าคุณพบว่าสุนัขของคุณมีกลิ่นปากติดต่อกันมากกว่า 1 สัปดาห์ คุณควรพาสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพช่องปากกับทางสัตวแพทย์ในทันที
3. น้ำลายไหลยืด
อาการน้ำลายไหลยืด เป็นอีกอาการหนึ่งที่บ่งบอกได้ว่าสุนัขของคุณกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากอยู่อย่างเช่น
- เหงือกของสุนัขเกิดการอักเสบอย่างรุนแรง
- มีเนื้องอกเกิดขึ้นภายในช่องปากของสุนัข
- มีคราบหินปูนเข้าไปสะสมอยู่ที่ฟันของสุนัขเป็นจำนวนมาก
- รวมถึงสาเหตุอื่นๆ อย่างเช่น สุนัขป่วยเป็นโรคตับ โรคไต โรคใบหน้าเป็นอัมพาต ก็ส่งผลทำให้สุนัขมีอาการน้ำลายไหลยืดขึ้นมาได้เหมือนกัน
ดังนั้นทางที่ดีถ้าคุณพบว่าสุนัขของคุณมีอาการน้ำลายไหลยืดติดต่อกันมากกว่า 3 – 4 วัน คุณควรพาสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพกับทางสัตวแพทย์ในทันที
4. เหงือกของสุนัขเปลื่ยนสี
คุณสามารถสังเกตได้ว่าสุนัขของคุณมีสุขภาพช่องปากเป็นอย่างไร โดยดูจากสีเหงือกของพวกมันอย่างเช่น
- ถ้าสุนัขมีสุขภาพดี สีเหงือกของพวกมันจะเป็นสีชมพูอ่อน
- ถ้าสุนัขป่วยเป็นโรคปริทันต์ (โรคเหงือกอักเสบ) เหงือกของพวกมันจะมีสีแดงเข้ม
- ถ้าสุนัขป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับตับ หรือถุงน้ำดี รวมถึงภาวะดีซ่าน เหงือกของสุนัขจะเปลื่ยนเป็นสีเหลือง
- ถ้าสุนัขมีภาวะโลหิตจาง เหงือกของพวกมันจะมีสีขาวซีดลง
- ถ้าเหงือกของสุนัขมีสีม่วงเข้มคล้ำ อาการดังกล่าวเป็นอาการที่บ่งบอกได้ว่าสุนัขกำลังขาดออกซิเจน หรือได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย คุณต้องรีบพาสุนัขของคุณไปหาสัตวแพทย์ในทันที
วิธีดูแลสุขภาพช่องปากของสุนัขอย่างเบื้องต้น
พออ่านถึงตรงนี้คุณผู้อ่านน่าจะทราบกันแล้วว่า 4 อาการผิดปกติในช่องปากของสุนัข ที่คุณควรพาสุนัขของคุณไปหาหมอนั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งคุณสามารถลดความเสี่ยงไม่ให้สุนัขของคุณมีอาการผิดปกติเหล่านี้ได้ด้วยการ
หมั่นแปรงฟันให้กับสุนัขของคุณอยู่เป็นประจำ สัปดาห์ละประมาณ 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ (คุณสามารถศึกษาวิธีแปรงฟันให้กับสุนัขของคุณได้ด้วยคลิปเหล่านี้เลยครับ “วิธีแปรงฟันให้กับสุนัข” )
รวมถึงให้คุณพาสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพช่องปากกับทางสัตวแพทย์อยู่เป็นประจำในทุก 6 เดือน เผื่อตรวจพบว่าสุนัขมีคราบหินปูน หรือเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก จะได้ทำการรักษาตั้งแต่ในระยะแรกเริ่มเลย