4 นิสัยของเจ้าของสุนัขที่ส่งผลกระทบต่อสุนัขโดยตรง

4 นิสัยของเจ้าของสุนัขที่ส่งผลกระทบต่อสุนัขโดยตรง

บทนำ

คุณรู้หรือไม่ว่านิสัยต่างๆ ที่คุณชอบทำกันอยู่เป็นประจำนั้น บางนิสัยอาจจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุนัขเลยไม่ว่าจะเป็นนิสัยนอนดึกตื่นสาย ทานอาหารไม่เป็นเวลา

โดยบทความนี้จะมาบอกให้คุณผู้อ่านฟังว่า นิสัยเหล่านี้ที่คุณทำนั้นมันส่งผลกระทบอะไรต่อสุนัขของคุณบ้าง พร้อมวิธีแก้ไขอย่างเบื้องต้น

สำหรับคุณผู้อ่านคนไหนที่กำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ

4 นิสัยของเจ้าของสุนัขที่ส่งผลกระทบต่อสุนัขโดยตรง

1. นอนตื่นสาย

น่าจะมีคนเลี้ยงสุนัขหลายคนเลยที่ชอบมีนิสัยนอนดึกแล้วตื่นตอนเที่ยงวัน หรือประมาณบ่าย หนี่งบ่ายสอง คุณรู้หรือไม่ว่าการที่คุณนอนดึกตื่นสายแบบนี้ มันจะส่งผลกระทบต่อสุนัขทำให้สุนัขของคุณมีนิสัยขี้เกียจชอบนอนตื่นสายขึ้นมาได้เหมือนกัน

วิธีแก้ไข

สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่ไม่อยากให้สุนัขของตัวเองมีนิสัยตื่นสาย คุณต้องปรับที่ตัวของคุณก่อน โดยให้คุณเริ่มเปลื่ยนเวลาไปนอนไม่เกิน 22.00 – 24.00 น. แล้วตื่นขึ้นมาในช่วงเวลาประมาณ 6.00 – 8.00 น.

และเมื่อคุณลุกขึ้นออกจากเตียงแล้ว ก็ให้คุณเริ่มปลูกสุนัขของคุณขึ้นมาทำกิจกรรมต่างๆ อย่างเช่น ให้สุนัขทานอาหารมื้อเช้า (มีผลวิจัยออกมาว่าการให้สุนัขได้ทานอาหารมื้อเช้าอยู่เป็นประจำ จะช่วยให้สุนัขของคุณฉลาดขึ้นมาได้)

หรือคุณอาจจะพาสุนัขไปเดินเล่นออกกำลังรอบหมู่บ้านของคุณก็ได้เหมือนกัน กิจกรรมตัวนี้จะช่วยให้สุนัขของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น แถมยังเป็นกิจกรรมที่ทำให้คุณกับสุนัขของคุณสนิทกันมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

เรียกได้ว่าเพียงแค่คุณเปลื่ยนเวลานอนมาตื่นเช้า แล้วให้สุนัขได้ทำกิจกรรมอะไรต่างๆ ในตอนเช้านั้น จะมีประโยชน์ทั้งกับคุณและก็กับสุนัขเป็นอย่างมาก

นิสัยเสียของคุณส่งผลกระทบอะไรต่อสุนัขบ้าง

2. ทานอาหารไม่เป็นเวลา

นี่ก็เป็นอีกข้อหนึ่งที่คนเลี้ยงสุนัขส่วนใหญ่มักจะเป็นกันนั้นก็คือ นิสัยทานอาหารไม่เป็นเวลา ข้อนี้จะเป็นผลพวงจากข้อที่ 1 เมื่อคุณนอนดึกตื่นสายก็จะทำให้คุณทานอาหารไม่เป็นเวลาอย่างเช่น

เพราะเมื่อคืนนอนดึกคุณจึงตื่นมาทานอาหารเช้าในตอน 11.00 น. แล้วอีกวันหนึ่งคุณนอนดึกประมาณตี 2 – 3 ตี คุณเลยตื่นมาทานอาหารเช้าตอนบ่ายสองโมงเลย

พฤติกรรมนี้ส่งผลกระทบต่อสุนัขอย่างไร

คุณรู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมเหล่านี้ของคุณ มันจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการกินอาหารของสุนัขเลย มันจะทำให้สุนัขของคุณทานอาหารไม่เป็นเวลา เพราะเมื่อคุณกินข้าวคุณก็มักจะให้สุนัขทานอาหารด้วย

และเมื่อสุนัขได้ทานอาหารในเวลาที่คลาดเคลื่อนวันนี้ได้ทานอาหารตอน 10 โมงเช้า อีกวันหนึ่งได้ทานอาหารตอนเที่ยง การทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันจะทำให้สุนัขสับสนว่าช่วงเวลาไหนเป็นช่วงเวลาที่พวกมันจะได้ทานอาหารกันแน่น

แล้วสุนัขของคุณก็จะรอคอยการให้อาหารจากคุณไปอย่างไร้จุดหมาย โดยไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไป ถ้าคุณปล่อยให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นกับสุนัขมากๆ เข้า มันจะทำให้สุนัขของคุณเกิดความเครียดสะสมขึ้นมาได้

วิธีแก้ไข

ถ้าคุณไม่อยากให้สุนัขของคุณต้องมีความเครียดสะสมกับเรื่องเหล่านี้ ให้คุณกำหนดช่วงเวลาการให้สุนัขทานอาหาร (โดยปกติแล้วสุนัขที่โตเต็มวัยจะทานอาหารอยู่ 2 มื้อนั้นก็คือ มื้อเช้ากับมื้อเย็น)

ก็ให้คุณกำหนดไปว่ามื้อเช้าของสุนัขควรทานอาหารไม่เกิน 8.00 – 9.00 น. ส่วนมื้อเย็นไม่ควรทานอาหารเกิน 17.00 – 18.00 น. และคุณก็ให้สุนัขของคุณทานอาหารในเวลาช่วงนั้น

การทำแบบนี้จะช่วยให้สุนัขรู้ว่าช่วงเวลาไหนที่พวกมันจะได้ทานอาหาร ซึ่งมันจะช่วยลดความสับสนของสุนัขว่าพวกมันจะได้ทานอาหารตอนไหนลงได้

ใช้เครื่องให้อาหารสุนัขแบบอัตโนมัติ

สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่ไม่สะดวกให้อาหารกับสุนัขในช่วงเวลานั้น คุณก็สามารถไปซื้อเครื่องให้อาหารสุนัขแบบตั้งเวลามาก็ได้เหมือนกัน

โดยเครื่องให้อาหารตัวนี้จะคอยทำหน้าที่ให้อาหารสุนัขในช่วงเวลาที่คุณตั้งไว้ กับปริมาณที่คุณสามารถกำหนดได้ว่าควรจะให้สุนัขทานอาหารในปริมาณเท่าไหร่ถึงจะกำลังดี

3. ขี้เกียจอาบน้ำ

มีคนเลี้ยงสุนัขหลายคนเลยที่มีนิสัยชอบขี้เกียจอาบน้ำคือ นั่งเล่นมือถือไปเรื่อยๆ แล้วพอถึงเวลาที่ต้องอาบน้ำ ก็คิดในใจว่ารออีกนิดนะเดี่ยวค่อยอาบน้ำ ซึ่งพวกเค้าก็คิดไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้อาบน้ำก็ถึงเวลาที่ต้องจะนอนแล้ว

พฤติกรรมแบบนี้ส่งผลกระทบต่อสุนัขอย่างไรบ้าง

คุณรู้หรือไม่ว่าการที่คุณมีนิสัยแบบนี้ หรือเป็นคนที่มีนิสัยชอบผัดวันประกันพรุ่ง มันจะส่งผลให้คุณเป็นคนขี้เกียจอาบน้ำให้กับสุนัข กับขี้เกียจพาสุนัขของตัวเองไปอาบน้ำตามร้านรับอาบน้ำสุนัข

เพราะคุณอาจจะคิดว่าเดี่ยวไว้ก่อนก็ได้ดูตัวของสุนัขยังไม่สกปรกเลย ไว้เดี่ยวรอมีกลิ่นตัวออกก่อนค่อยพาไปอาบน้ำก็ได้ ซึ่งความคิดแบบนี้ของคุณอาจจะทำให้สุนัขไม่ได้อาบน้ำภายในเดือนนั้นเลย

อย่างในกรณีนี้ถ้าสุนัขยังเนื้อตัวสะอาดอยู่ก็ไม่เป็นไรมาก แต่ในทางกลับถ้าสุนัขของคุณไปวิ่งเล่นซุกซนจนเนื้อตัวสกปรกกลับมา หรือสุนัขของคุณไปวิ่งเล่นตากฝน

ซึ่งเหตุการณ์คุณจำเป็นต่ออาบน้ำให้กับสุนัขในทันที แต่ถ้าคุณมีนิสัยขี้เกียจชอบผลัดวันประกันพรุ่ง คุณก็อาจจะคิดว่าเอาไว้ก่อนเดี่ยวค่อยพาไปอาบน้ำก็ได้ วันนี้ยังขี้เกียจอยู่อยากจะนอนเล่นมือถือ ไม่คอยอยากขับรถออกไปข้างนอกเลย

ความคิดเหล่านี้ของคุณอาจจะทำให้สุนัขไม่ได้รับการอาบน้ำในวันนั้น และเมื่อเนื้อตัวของสุนัขสกปรก หรือมีขนที่เปียกชื้นต่อติดกันเป็นเวลานาน ก็จะทำให้สุนัขของคุณเปลื่ยนเป็นโรคผิวหนังขึ้นมาได้

วิธีแก้ไข

คุณต้องฝึกให้ตัวเองเลิกเป็นคนผลัดวันประกันพรุ่ง เรื่องไหนที่คุณควรทำคุณต้องทำโดยทันที และทุกครั้งที่คุณเห็นสุนัขเนื้อตัวสกปรกจากการวิ่งเล่นซุกซน กับไปวิ่งเล่นตากฝนกลับมา

คุณต้องอาบน้ำให้กับสุนัขโดยทันที หรือไปสุนัขไปอาบน้ำตามร้านรับอาบน้ำสุนัขในทันทีโดยที่ไม่มีข้อแม้ใดๆ เลย

นิสัยที่คุณต้องระวังในการเลี้ยงสุนัข

4. ไม่พาสุนัขไปออกกำลังกาย

มีคนเลี้ยงสุนัขหลายคนเลยที่ไม่ค่อยอยากพาสุนัขของตัวไปออกกำลังกาย พวกเค้ามักจะอ้างด้วยเหตุผลต่างๆ น่าๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • จะออกไปทำไมแดดร้อนเดี๋ยวผิวเสียเปล่าๆ
  • ขี้เกียจอะทำงานกลับมาเหนื่อยๆ ก็อยากจะพักผ่อนบ้าง
  • เสียเวลาวันหยุดพักผ่อนของฉัน ทำไมฉันต้องเสียเวลาพาสุนัขไปเดินเล่นด้วย

พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อสุนัขอย่างไร

คุณรู้หรือไม่ว่าการที่คุณไม่ยอมพาสุนัขไปออกกำลังกาย มันจะส่งผลทำให้สุนัขของคุณเกิดความเครียดสะสมขึ้นมาได้ เพราะในแต่ละวันสุนัขต้องได้รับการระบายพลังงานที่สะสมอยู่ในร่างกายของพวกมันออกไป

และเมื่อคุณปล่อยให้สุนัขของคุณมีความเครียดสะสมมากๆ เข้า ก็จะทำให้พฤติกรรมต่างๆ ของสุนัขเปลื่ยนแปลงไป สุนัขของคุณจะกลายเป็นสุนัขที่มีนิสัยดุร้ายและก้าวร้าวมากยิ่งขึ้น

พวกมันจะเริ่มทำลายข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในบ้านของคุณ รวมถึงไม่เชื่อฟังคำสั่งของคุณไม่ว่าคุณจะสั่งให้พวกมันทำอะไรก็ตามที

วิธีแก้ไข

ถ้าคุณไม่อยากให้สุนัขของคุณต้องเป็นแบบนี้ คุณต้องคอยสะสมเวลาส่วนตัวของคุณ หรือเวลาว่างประมาณ 15 – 20 นาทีของคุณมาเล่นกับสุนัขของคุณ หรือหากิจกรรมให้สุนัขได้ออกกำลังกายอย่างเช่น

  • การพาสุนัขไปเดินเล่นรอบหมู่บ้าน
  • วิ่งเล่นไล่จับกับสุนัข
  • พาสุนัขไปว่ายน้ำ
  • ปั่นจักรยานแล้วให้สุนัขเดินตามคุณ (วิธีนี้คุณต้องคอยระวังอย่าให้สุนัขของคุณถูกสุนัขจรจัดกัดเอา หรือถูกรถชนในระหว่างที่คุณปั่นจักรยานได้)
  • ให้สุนัขเดินเล่นบนลู่วิ่ง
  • โยนลูกบอลหรือจานร่อน แล้วสั่งให้สุนัขไปคาบกลับมา
  • เล่นเกมซ่อนหากับสุนัข
  • พาสุนัขไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะที่อนุญาตให้สุนัขเข้าไปเดินเล่นได้

สำหรับการออกกำลังกายที่ดีของสุนัขควรอยู่ที่ช่วงเวลาประมาณ 15 – 20 นาทีต่อวัน สัปดาห์ละประมาณ 3 – 4 ครั้ง ก็จะช่วยให้สุนัขของคุณมีสุขภาพกายที่แข็งแรงละมีสุขภาพจิตที่ดีอยู่เสมอ