บทนำ
บทความนี้จะมาแนะนำ 4 โรคกระจกตาที่สุนัขมักจะป่วยเป็นบ่อย ว่ามีโรคอะไรบ้าง พร้อมสาเหตุ อาการกับวิธีรักษา รวมถึงวิธีป้องกันไม่ให้สุนัขป่วยเป็นโรคเหล่านี้
สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่อยากรู้ว่ามีโรคอะไรบ้างนั้นก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ
4 โรคกระจกตาที่สุนัขมักจะเป็นบ่อย
1. โรคตาแห้ง
โรคตาแห้งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในสุนัข โดยสาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคนี้ มีได้หลากหลายสาเหตุด้วยกันได้แก่
- ต่อมน้ำตาของสุนัขเกิดการอักเสบ
- ต่อมน้ำตาของสุนัขเสื่อมสภาพตามอายุ (โดยส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับสุนัขวัยชรา)
- สุนัขป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง
- เป็นผลข้างเคียงจากการที่สุนัขป่วยเป็นโรคตับอักเสบ กับโรคเบาหวาน
- สุนัขป่วยเป็นโรคผิวหนังรอบดวงตา
เมื่อสุนัขป่วยเป็นโรคตาแห้งจะมีอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ขี้ตาของสุนัขจะเปลื่ยนจากสีปกติกลายเป็นสีเขียว
- น้ำตาของสุนัขจะมีความเหนียวข้นเป็นอย่างมาก
- สุนัขจะมีอาการกระจกตาขุ่น
- สุนัขจะรู้สึกเจ็บปวดที่ดวงตาอย่างรุนแรง
- สุนัขจะมีอาการหรี่ตา กับกระพริบตาอยู่เป็นประจำ
- ในกรณีขั้นร้ายแรงอาจจะทำให้สุนัขเกิดอาการตาบอดขึ้นมาได้
วิธีรักษาอาการตาแห้งในสุนัข
สำหรับวิธีรักษาอาการตาแห้งของสุนัข คุณสามารถทำได้โดยการ หมั่นทำความสะอาดดวงตาของสุนัขอยู่เป็นประจำ ควบคู่กับการใช้ยาหยอดตา 3 ประเภทหลักๆ ด้วยกันได้แก่
- น้ำตาเทียม
- ยาควบคุมการติดเชื้อที่ดวงตา
- ยากระต้นการสร้างน้ำตา
ตัวยาทั้ง 3 ประเภทนี้จะช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับดวงตาของสุนัขลงได้
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
โรคนี้เป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ ทำได้แต่เพียงใช้ตัวยาคอยประคับประคองอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น จึงทำให้สุนัขตัวไหนที่ป่วยเป็นโรคนี้ จำเป็นต้องใช้ตัวยาทั้ง 3 ประเภทนี้ไปตลอดชีวิต
ในกรณีที่สุนัขมีอาการตาแห้งอย่างรุนแรง ทางสัตวแพทย์จะใช้วิธีผ่าตัดเข้ามาช่วยในการรักษา
2. กระจกตาอักเสบ
กระจกตาอักเสบเป็นอีกโรคหนึ่งที่สุนัขมีโอกาสป่วยได้ง่ายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสุนัขสายพันธุ์เยอรมัน เชฟเฟิร์ด ที่จะมีโอกาสป่วยเป็นโรคนี้ได้ง่ายกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ถึง 2 – 3 เท่าด้วยกันเลย
สำหรับสาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคกระจกตาอักเสบ ก็มีได้หลากหลายสาเหตุด้วยกันได้แก่
- สุนัขได้รับอุบัติเหตุจนส่งผลกระทบต่อกระจกตาอย่างเช่น การถูกของมีคมบาดเข้าที่กระจกตา
- กระจกตาของสุนัขเกิดการติดเชื้อ
- สุนัขที่ป่วยเป็นโรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน จะมีโอกาสป่วยเป็นโรคกระจกตาอักเสบขึ้นมาได้
- เป็นโรคประจำตัวของสุนัขบางสายพันธุ์อย่างเช่น สุนัขเยอรมัน เชฟเฟิร์ด ,ชิวาวา ,บูลด็อก เป็นต้น
- ปัจจัยทางอ้อมอย่างเช่น แสงแดด ฝุ่นละออง ควันจากการเผาไหม้ ก็เป็นตัวกระตุ้นทำให้กระจกตาของสุนัขเกิดการอักเสบขึ้นมาได้
อาการของโรคกระจกตาอักเสบในสุนัข
- สุนัขจะมีอาการตาแดง ตาบวมโต (อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นต่อเมื่อดวงตาของสุนัขเกิดการติดเชื้อ)
- จะมีน้ำตาไหลออกมาจากที่ดวงตาของสุนัขอยู่เป็นประจำ
- สุนัขจะมีอาการตาเหลือง กับมีน้ำหนองไหลออกมาจากดวงตาของสุนัข (ในกรณีที่ดวงตาของสุนัขเกิดการติดเชื้อนะ)
- สุนัขจะมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวของพวกมันไม่ชัดเจน จึงทำให้สุนัขมักจะชอบเดินชนสิ่งของต่างๆ ที่วางอยู่ตามพื้นได้ง่าย
วิธีรักษาโรคกระจกตาอักเสบในสุนัข
โดยส่วนใหญ่การรักษาโรคกระจกตาอักเสบในสุนัข ทางสัตวแพทย์จะนิยมใช้หยอดตา Cyclosporine ทำการหยอดตาให้กับสุนัขวันละ 1 – 2 ครั้ง ร่วมกับการใช้ตัวยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์เข้ามาช่วยในการรักษา
รวมถึงยังแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยง อย่าพาสุนัขไปอยู่ในจุดเสี่ยงที่จะทำให้กระจกดวงตาของสุนัขเกิดการอักเสบได้ง่ายอย่างเช่น ในจุดที่มีแสงแดดร้อนจัด หรือในจุดที่มีฝุ่นละอองสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก
3. โรคกระจกตาเสื่อม
โรคกระจกตาเสื่อม เป็นโรคประจำตัวของสุนัขสายพันธุ์ต่างๆ อย่างเช่น
- ไซบีเรียน ฮัสกี้
- ซามอยด์
- โกลเด้น รีทรีฟเวอร์
- บีเกิล
- คอลลี่
- ค็อกเกอร์ สแปเนียล
รวมถึงสุนัขวัยชราก็มีโอกาสป่วยเป็นโรคนี้ได้เหมือนกัน
อาการของโรคกระจกตาเสื่อมในสุนัข
- ดวงตาของสุนัขมีสีขาวขุ่น หรือมีสีขาวทึบเกิดขึ้นที่กระจกตาของสุนัข
- โรคนี้จะส่งผลกระทบต่อการมองเห็นของสุนัข ทำให้สุนัขไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวของมันได้อย่างชัดเจน จึงทำให้สุนัขมักจะเดินชนสิ่งของต่างๆ ที่วางอยู่ตรงหน้าได้ง่าย
วิธีรักษาโรคกระจกตาเสื่อมในสุนัข
ทางสัตวแพทย์มีวิธีรักษาโรคกระจกตาเสื่อมของสุนัขด้วยการ หาวิธีลดไขมันกับแคลเซียมที่เข้าไปสะสมอยู่ที่กระจกตาของสุนัข (สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคนี้เกิดจาก การมีไขมันหรือแคลเซียมเข้าไปสะสมอยู่ที่บริเวณกระจกตาของสุนัขเป็นจำนวนมาก)
รวมถึงการใช้น้ำตาเทียม ร่วมกับยาปฏิชีวนะประเภทต่างๆ เข้ามาช่วยในการรักษา หลังจากที่อาการต่างๆ ของสุนัขเริ่มดีขึ้นมาแล้วทางสัตวแพทย์จะแนะนำวิธีดูแลสุขภาพของสุนัขไม่ให้ป่วยเป็นโรคอ้วน (สุนัขที่ป่วยเป็นโรคอ้วนจะมีโอกาสป่วยเป็นโรคนี้ได้สูงเป็นอย่างมาก)
4. แผลหลุมที่กระจกตา
สุนัขเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างมีนิสัยซุกซนเป็นอย่างมาก จึงทำให้มีหลายครั้งที่พวกมันได้รับอุบัติเหตุต่างๆ เข้าที่ดวงตาจากการวิ่งเล่นซุกซนอย่างเช่น
- การวิ่งเข้าไปชนกับสิ่งของมีคม จนทำให้กระจกตาของสุนัขได้รับความเสียหายอย่างหนัก
- ไปกัดกับสุนัขจรจัดตัวอื่น จนได้รับบาดเจ็บเข้าที่กระจกตา
- ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านแล้วได้รับสารเคมีบางชนิดเข้าที่ดวงตา
- สุนัขยกขาขึ้นมาเกาที่ดวงตาบ่อย จนทำให้ดวงตาของสุนัขเกิดเป็นแผลขึ้นมาได้
เหตุการณ์เหล่านี้อาจจะทำให้สุนัขของคุณได้รับบาดเจ็บที่กระจกตา จนเกิดเป็นแผลหลุมขึ้นมาได้ รวมถึงสาเหตุอื่นๆ อย่างเช่น การที่สุนัขป่วยเป็นบางอย่าง (โรคไข้หัดสุนัข) กับการที่สุนัขมีอาการตาแห้ง หนังตาม้วนเข้า ก็ทำให้สุนัขเกิดแผลหลุมขึ้นที่ดวงตาก็ได้เหมือนกัน
อาการแผลหลุมที่กระจกตาของสุนัข
เมื่อมีแผลหลุมเกิดขึ้นที่ดวงตาของสุนัข จะส่งผลทำให้สุนัขมีอาการ
- ตาแดง (จากเยื่อตาขาวอักเสบ)
- กระจกตาขุ่น
- สุนัขจะกระพริบตา และหรี่ตาบ่อยกว่าปกติ
- ดวงตาของสุนัขจะบวมโตขึ้นจากอาการบวมน้ำ
- สุนัขจะรู้สึกเจ็บปวดที่ดวงตาเป็นอย่างมาก
- ในสุนัขบางรายอาจจะมีอาการน้ำตาไหลอย่างต่อเนื่อง
วิธีรักษาแผลหลุมที่กระจกตาของสุนัข
สำหรับวิธีรักษาแผลหลุมในกระจกตาของสุนัขจะถูกแบ่งออกมาได้ 5 ระดับด้วยกัน ตามความลึกของแผลที่เกิดขึ้นได้แก่
- ระดับที่ 1 แผลติ้นไม่ได้รับความเสียหายมากนัก การรักษาสามารถทำได้ด้วยการใช้ยารักษา ร่วมกับยาแก้ปวดประเภทต่างๆ
- ระดับที่ 2 ในระดับนี้จะเป็นแผลแบบติ้น แต่ตัวยาที่ใช้ในการรักษาไม่ได้ผล ทางสัตวแพทย์จึงเปลื่ยนวิธีไปใช้การผ่าตัดแทนการใช้ยา (โดยส่วนใหญ่เหตุการณ์เหล่านี้มักจะเกิดกับสุนัขวัยชราที่มีอายุมากแล้ว)
- ระดับที่ 3 เป็นแผลขนาดลึก ที่กินระยะเข้าไปประมาณ 1 ใน 3 ของกระจกตา การรักษาจะคล้ายกับในระดับที่ 1 แต่ต้องทำการรักษาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลานาน
- ระดับที่ 4 เป็นแผลลึกแบบลุมลามไปใหญ่โต สำหรับในระดับนี้ต้องใช้วิธีการผ่าตัดเข้ามาช่วยในการรักษาแต่เพียงเท่านั้น
- ระดับที่ 5 เป็นแผลแบบทะลุ แผลในระดับนี้อาจจะทำให้สุนัขสูญเสียการมองเห็นได้ง่าย การผ่าตัดต้องทำอย่างระมัดระวัง ควบคู่กับการคอยระวังไม่ให้ภาวะม่านตาของสุนัขเกิดการอักเสบ
วิธีป้องกันโรคกระจกตาในสุนัข
คุณสามารถป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคกระจกตาได้ด้วยการ
- พยายามหลีกเลี่ยงอย่าให้สุนัขของคุณเข้าใกล้สิ่งของมีคมโดยเด็ดขาด
- คุณควรเก็บสิ่งของมีคมที่เป็นอันตรายต่อดวงตาของสุนัข ที่ในบ้านของคุณขึ้นไว้ในที่สูงให้หมด หรืออาจจะเก็บไว้ในห้องเก็บของแล้วปิดประตูให้สนิท
- หลีกเลี่ยงอย่าพาสุนัขของคุณไปสิ่งแวดล้อมที่ทำให้กระจกตาของสุนัขเกิดการอักเสบได้ง่ายอย่างเช่น บริเวณที่มีแสงแดดแรงจัด ,ตรงบริเวณที่มีฝุ่นควันสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก
- ให้คุณล้างทำความสะอาดดวงตาของสุนัขในทันที ถ้าพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอยู่ในดวงตาของสุนัข
- พาสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพดวงตากับทางสัตวแพทย์อยู่เป็นประจำ ปีละประมาณ 2 ครั้ง
- หมั่นสังเกตอาการผิดปกติที่ดวงตาของสุนัขอยู่เสมอ ถ้าคุณพบว่าดวงตาของสุนัขมีความผิดปกติเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นอาการดวงตา ,มีน้ำตาไหลมากกกว่าปกติ ให้คุณรีบพาสุนัขของคุณไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุในทันที