บทนำ
สุนัขก็เหมือนกับมนุษย์ที่อาจจะมีอาการตดขึ้นมาได้เหมือนกันได้ โดยสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้สุนัขของคุณมีอกาารตดออกมานั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 สาเหตุได้แก่
1. พฤติกรรมการทานอาหารเร็ว
สุนัขที่มีนิสัยชอบกินอาหารอย่างรวดเร็ว จะทำให้มีก๊าซเข้าไปสะสมอยู่ภายในกระเพาะอาหารของสุนัขเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลทำให้สุนัขมีอาการตดออกมาได้
2. อาหารบางชนิด
จะมีอาหารอยู่บางชนิดที่พอสุนัขทานเข้าไปแล้ว จะเกิดก๊าซสะสมอยู่ในกระเพราะอาหารเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาหารดังกล่าวก็จะมี
- ถั่วเหลือง
- ถั่วเขียว
- นม
- ชีส
- อาหารเผ็ด
- อาหารทะเล เป็นต้น
3. มีความผิดปกติเกิดขึ้นที่ลำไส้
ถ้าสุนัขของคุณมีความผิดปกติเกิดขึ้นที่ลำไส้อย่างเช่น
- ลำไส้ใหญ่เกิดการอักเสบ
- มีเนื้องอกเกิดขึ้นที่ลำไส้ใหญ่ใกล้รูทวาน
ก็จะส่งผลทำให้สุนัขของคุณมีอาการตดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวันขึ้นมาได้
แล้วอาการตดแบบไหนที่คุณจำเป็นต้องพาสุนัขไปหาหมอ
โดยปกติแล้วอาการตดของสุนัขจะมีระยะเวลาอยู่ที่ประมาณ 1 วัน แล้วอาการตดของสุนัขก็จะหายไปเอง แต่ในทางกลับกันถ้าสุนัขของคุณมีอาการตดออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ หรือมีอาการตดอย่างต่อเนื่องติดต่อกันมากกว่า 3 – 4 วัน
อาการดังกล่าวเป็นอาการที่บ่งชี้ว่าสุนัขของคุณกำลังมีความผิดปกติเกิดขึ้นที่ระบบทางเดินอาหาร ให้คุณรีบพาสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพกับทางสัตวแพทย์ในทันที
วิธีป้องกันไม่ให้สุนัขตด
คุณสามารถป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณตดได้หลากหลายวิธี ดังนี้ต่อไปนี้
- ฝึกให้สุนัขทานอาหารช้าลง
- หลีกเลี่ยงอย่าให้สุนัขของคุณทานอาหารที่ทำให้เกิดแก๊ส เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว นม ชีส อาหารเผ็ด และอาหารทะเล เป็นต้น
- ให้สุนัขทานอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ ข้าวโอ๊ต อยู่เสมอ
- พาสุนัขไปตรวจสุขภาพกับทางสัตวแพทย์เป็นประจำ
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
ถ้าคุณพบว่าสุนัขของคุณมีอาการตดบ่อยแบบผิดปกติ รวมถึงมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยอย่างเช่น อาเจียน ท้องเสีย น้ำหนักลด เบื่ออาหาร ซึมเศร้า ให้คุณรีบพาสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพกับทางสัตวแพทย์ในทันที เพราะสุนัขของคุณอาจจะกำลังป่วยเป็นโรคอะไรบางอย่างอยู่ก็เป็นได้